ทลายความเชื่อสุขภาพผิดๆ ที่ผู้ชายต้องรู้: นมถั่วเหลือง ทางเลือกสุขภาพที่อาจไม่เหมาะกับผู้ชาย นมถั่วเหลืองได้สร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองเป็น “ทางเลือกสุขภาพ” สำหรับคนที่ไม่ดื่มนมวัว มันเต็มไปด้วยโปรตีน ปราศจากแลคโตส และเป็นมิตรกับผู้ทานมังสวิรัติ แต่ท่ามกลางคุณประโยชน์เหล่านั้น มีความจริงอีกด้านที่ซ่อนอยู่ซึ่งผู้ชายที่ใส่ใจเรื่องสมรรถภาพและฮอร์โมนต้องตระหนักรู้ ไม่ได้บอกว่านมถั่วเหลืองคือ “ยาพิษ” แต่ผมจะบอกว่าการดื่มมันเป็นกิจวัตรทุกเช้า อาจเป็นพฤติกรรมที่กำลังรบกวนสมดุลฮอร์โมนอันเปราะบางของคุณอย่างเงียบๆ มันคือการเติมสารประกอบที่ “เลียนแบบฮอร์โมนหญิง” เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดสำหรับผู้ชายที่ต้องการรักษาสภาวะความเป็นชายให้สูงสุด Phytoestrogens 101: สารประกอบในพืชที่ทำตัวเหมือน “กุญแจผี” ในถั่วเหลืองมีสารประกอบตามธรรมชาติกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า “ไอโซฟลาโวน” (Isoflavones) ซึ่งเป็น “ไฟโตเอสโตรเจน” (Phytoestrogens) ชนิดหนึ่งที่ทรงพลังมากที่สุด ไฟโตเอสโตรเจนคือสารจากพืชที่มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายคลึงกับฮอร์โมน “เอสโตรเจน” (Estrogen) หรือฮอร์โมนหญิงของมนุษย์อย่างน่าทึ่ง ความคล้ายคลึงนี้ทำให้มันสามารถทำตัวเป็น “กุญแจผี” เข้าไปไขใน “รูกุญแจ” หรือตัวรับเอสโตรเจน (Estrogen Receptors) ในเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกายของคุณได้ เมื่อกุญแจผีเข้าไปในระบบ มันสามารถสร้างความสับสนได้ 2 รูปแบบ: คืออาจจะเข้าไป “ขวาง” ไม่ให้เอสโตรเจนตัวจริงทำงาน หรืออาจจะเข้าไป “กระตุ้น” ให้เซลล์ทำงานเหมือนได้รับเอสโตรเจนจริงๆ แม้จะมีความแรงน้อยกว่าก็ตาม สำหรับร่างกายของผู้ชายที่ซึ่งฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนควรจะเป็นผู้คุมเกม การมีสารที่เข้ามาปั่นป่วนระบบเอสโตรเจนอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น ปริมาณเท่าไหร่ถึงน่ากังวล?: เมื่อวิทยาศาสตร์ยังเสียงแตก นี่คือประเด็นที่ต้องพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา: งานวิจัยในเรื่องนี้ยังคงมีผลลัพธ์ที่หลากหลายและเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ งานวิจัยเชิงสังเคราะห์ขนาดใหญ่ (Meta-analysis) หลายชิ้นสรุปว่า […]
Tag Archives: นกเขาไม่ขัน
ทลายความเชื่อสุขภาพผิดๆ ที่ผู้ชายต้องรู้: ซีเรียลมื้อเช้า…ตัวทำลาย ‘ฮอร์โมนชาย‘ ตั้งแต่คำแรก ภาพจำในวัยเด็กของใครหลายคนคือการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยซีเรียลในชามนม มันคือสัญลักษณ์ของมื้อเช้าที่ง่าย, รวดเร็ว, และ “ดีต่อสุขภาพ” ตามที่โฆษณาได้บอกไว้ แต่ผม Mr.MDX ในฐานะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนชาย ขอบอกความจริงให้คุณทราบว่า…ซีเรียลส่วนใหญ่ในท้องตลาด ไม่ใช่อาหารเช้า แต่คือ “ขนมหวาน” ที่ปลอมตัวมาอย่างแนบเนียน มันคือการโจมตีระบบฮอร์โมนของคุณด้วย “สึนามิน้ำตาล” ตั้งแต่เริ่มต้นวัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายที่สุดที่คุณสามารถทำได้ หากคุณต้องการรักษาระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนให้สูงและมีพลังงานที่เปี่ยมล้นไปตลอดทั้งวัน Insulin Spike: การเริ่มต้นวันที่เลวร้ายที่สุดสำหรับระบบฮอร์โมน ซีเรียลส่วนใหญ่ทำมาจากธัญพืชที่ผ่านการแปรรูปและขัดสีอย่างรุนแรง (Refined Carbohydrates) เช่น แป้งข้าวโพด, แป้งสาลี ซึ่งร่างกายจะย่อยและเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับน้ำตาลทราย นอกจากนี้ ผู้ผลิตยังเติมน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมเข้าไปอีกมหาศาลเพื่อรสชาติที่อร่อยถูกปาก เมื่อคุณกิน “ระเบิดน้ำตาล” ชามนี้เข้าไป ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ร่างกายจะตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินนี้โดยการสั่งให้ตับอ่อนหลั่งฮอร์โมน “อินซูลิน” (Insulin) ออกมาจำนวนมาก เพื่อทำหน้าที่เก็บกวาดน้ำตาลออกจากกระแสเลือดไปเก็บไว้ในเซลล์ การเริ่มต้นวันด้วยการกระตุ้นอินซูลินให้พุ่งสูงเสียดฟ้า ก็เหมือนการสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยการเหยียบคันเร่งจมมิดทันที มันสร้างความเครียดให้กับระบบเผาผลาญและเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรหายนะทางฮอร์โมน Insulin Resistance: เมื่อเซลล์ “ดื้อ” และฮอร์โมนชายดิ่งลง หากคุณทำพฤติกรรมนี้ซ้ำๆ ทุกเช้า เซลล์ต่างๆ ในร่างกายจะเริ่ม “ชินชา” และ “ดื้อ” ต่อสัญญาณของอินซูลิน ตับอ่อนจึงต้องทำงานหนักขึ้นและผลิตอินซูลินออกมาในปริมาณที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ผลเท่าเดิม ภาวะนี้คือหายนะที่เรียกว่า “ภาวะดื้อต่ออินซูลิน” […]
EP75: ซีเรียลมื้อเช้า…ตัวทำลาย ‘ฮอร์โมนชาย’ ตั้งแต่คำแรก ซีเรียลมื้อเช้าที่โฆษณาว่าดีต่อสุขภาพ แท้จริงแล้วคือ “ขนมหวาน” ที่อัดแน่นด้วยน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตแปรรูป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรทำลายฮอร์โมนชาย การกินซีเรียลจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง นำไปสู่การหลั่ง “อินซูลิน” จำนวนมาก การทำเช่นนี้ทุกวันจะสร้าง “ภาวะดื้อต่ออินซูลิน” ซึ่งเป็นหายนะต่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน 3 ระดับ: 1.ลดการผลิต: ทำลายเซลล์ Leydig ในอัณฑะ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตฮอร์โมนชายโดยตรง 2.เปลี่ยนเพศฮอร์โมน: กระตุ้นเอนไซม์ Aromatase ให้เปลี่ยนเทสโทสเตอโรนไปเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนหญิง) มากขึ้น 3.ล็อกไม่ให้ใช้งาน: กระตุ้นให้ตับสร้างโปรตีน SHBG หรือ “กุญแจมือ” ที่จะมาจับและล็อกเทสโทสเตอโรนที่เหลืออยู่ของคุณ ทำให้ร่างกายนำไปใช้ไม่ได้ ทางออก: โยนซีเรียลทิ้งไป แล้วเริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าที่แท้จริงของผู้ชายอย่าง “โปรตีนและไขมันดี” เช่น ไข่กับอะโวคาโด หรือกรีกโยเกิร์ต เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนให้สมดุลและมีพลังงานที่เสถียรตลอดทั้งวันครับ MDX แบรนด์ผู้ชายอันดับ 1 คิดค้นความล้ำหน้า เพื่อชีวิตผู้ชายมีระดับ
ทลายความเชื่อสุขภาพผิดๆ ที่ผู้ชายต้องรู้: แค่ดื่มเบียร์ทุกวัน…ทำลายฮอร์โมนชายที่คุณไม่เคยรู้ ภาพของผู้ชายที่ผ่อนคลายด้วยเบียร์เย็นๆ สักแก้วหลังเลิกงาน คือภาพจำที่ดูคลาสสิกและเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชาย แต่อยากจะบอกความจริงที่น่าตกใจให้คุณทราบว่า…เครื่องดื่มที่คุณคิดว่า “แมน” ที่สุดนั้น กลับอัดแน่นไปด้วยสารประกอบที่เลียนแบบ “ฮอร์โมนหญิง” และการดื่มมันเป็นประจำทุกวัน คือการเปิดประตูให้ร่างกายของคุณเข้าสู่ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่คุณไม่ต้องการเห็น เรื่องนี้ไม่ใช่แค่แคลอรี แต่คือสงครามทางชีวเคมีที่เกิดขึ้นในร่างกายของคุณทุกครั้งที่กระดกเบียร์เข้าปาก Phytoestrogens 101: ฮอร์โมนหญิงในคราบพืช หัวใจของรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเบียร์มาจากวัตถุดิบที่เรียกว่า “ฮอปส์” (Hops) แต่ในความหอมนั้นมีภัยเงียบซ่อนอยู่ ฮอปส์เป็นพืชที่มีสารประกอบ “ไฟโตเอสโตรเจน” (Phytoestrogens) ในปริมาณสูงมาก โดยเฉพาะชนิดที่ทรงพลังที่สุดอย่าง 8-prenylnaringenin (8-PN) ไฟโตเอสโตรเจนคือสารจากพืชที่มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายคลึงกับฮอร์โมน “เอสโตรเจน” (Estrogen) ของมนุษย์อย่างน่าทึ่ง ความคล้ายคลึงนี้ทำให้มันสามารถเข้าไปจับกับตัวรับเอสโตรเจน (Estrogen Receptors) ในเซลล์ต่างๆ ของร่างกายผู้ชายได้ เปรียบเสมือนการใช้ “กุญแจผี” ที่มีรูปร่างคล้ายกุญแจจริงมาไขเข้าระบบฮอร์โมนของคุณ ทำให้ร่างกายได้รับสัญญาณที่สับสนและรบกวนสมดุลอันเปราะบางระหว่างเทสโทสเตอโรนและเอสโตรเจน Gynecomastia: เมื่อผู้ชายมี “หน้าอก” เมื่อสมดุลฮอร์โมนของผู้ชายเสียไป โดยมีระดับเอสโตรเจนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเทสโทสเตอโรน มันสามารถนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า “Gynecomastia” (ภาวะเต้านมโตในผู้ชาย) นี่ไม่ใช่แค่การสะสมของไขมันธรรมดา แต่มันคือการ “เจริญเติบโตของเนื้อเยื่อเต้านม” จริงๆ […]
EP73: แค่ดื่มเบียร์ทุกวัน…ทำลายฮอร์โมนชายที่คุณไม่เคยรู้ 🍺❌ แค่ดื่มเบียร์ทุกวัน = ทำลายฮอร์โมนชาย สิ่งที่คุณคิดว่า “แมน” ที่สุด กำลังซ่อนภัยเงียบที่บั่นทอนความเป็นชาย! 🔻 ทำไม? ฮอปส์ในเบียร์ อุดมด้วย ไฟโตเอสโตรเจน = สารเลียนแบบฮอร์โมนหญิง → รบกวนสมดุลฮอร์โมน ส่งผลให้เกิด Gynecomastia (หน้าอกโตในผู้ชาย), กล้ามขึ้นยาก, พุงมาแทน แอลกอฮอล์ทำลายตับ → ตับหยุดกำจัดเอสโตรเจนส่วนเกิน → ฮอร์โมนเสียสมดุลยิ่งกว่าเดิม ✅ ดื่มยังไงไม่พัง? เลือกสุราใส (วอดก้า, จิน, เตกีล่า) ผสมโซดา/มะนาว ลดความถี่ → ไม่ทุกวัน แต่เลือกเฉพาะโอกาส อย่าดื่มตอนท้องว่าง + ดื่มน้ำสลับทุกแก้ว 👉 ความสุขชั่วคราวจากเบียร์ อาจแลกมาด้วยสมรรถภาพที่หายไป จงเลือกสิ่งที่ปกป้องความเป็นชายของคุณ MDX แบรนด์ผู้ชายอันดับ 1 คิดค้นความล้ำหน้า เพื่อชีวิตผู้ชายมีระดับ
ทลายความเชื่อสุขภาพผิดๆ ที่ผู้ชายต้องรู้: Zero Sugar…สารให้ความหวานที่ทำลายน้องชายจากลำไส้ คุณเดินไปที่ตู้แช่ในร้านสะดวกซื้อ ด้วยความตระหนักรู้ด้านสุขภาพ คุณจึงเลือกหยิบเครื่องดื่มกระป๋องดำที่เขียนว่า “Zero Sugar” หรือ “Diet” แทนกระป๋องสีแดงฉานที่เต็มไปด้วยน้ำตาล คุณรู้สึกฉลาดที่ได้ลิ้มรสความหวานโดยไม่ต้องรับแคลอรี…แต่ผม Mr.MDX ขอบอกคุณว่า คุณกำลังตกหลุมพรางของ “ม้าโทรจัน” สารให้ความหวานสังเคราะห์ที่คุณดื่มเข้าไป คือกองทัพเคมีที่ซ่อนตัวเข้ามาทำลาย “ศูนย์บัญชาการระบบภูมิคุ้มกัน” ของคุณ…นั่นคือ “ลำไส้” และเมื่อศูนย์บัญชาการนี้พังทลาย สมรภูมิรบสุดท้ายที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงก็คือสมรรถภาพของคุณ ทางด่วนจากลำไส้สู่ “น้องชาย” ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจความจริงทางการแพทย์ที่สำคัญที่สุดข้อนี้นั่นคือ สุขภาพของลำไส้ คือรากฐานของสุขภาพหลอดเลือด ในลำไส้ของคุณมี “จุลินทรีย์ดี” (Gut Microbiome) นับล้านล้านตัว ทำหน้าที่เหมือนเป็นกองทัพที่คอยควบคุมระบบภูมิคุ้มกันและต่อสู้กับการอักเสบ หากกองทัพนี้แข็งแกร่ง ร่างกายคุณก็จะอยู่ในภาวะสงบสุข แต่เมื่อกองทัพนี้อ่อนแอ การอักเสบจะลุกลามไปทั่วร่างกายเหมือนไฟป่า และอวัยวะแรกๆ ที่จะถูกเผาทำลายคือ “ผนังหลอดเลือด” (Endothelium) ซึ่งเป็นพื้นผิวที่บอบบางและสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายตัวของหลอดเลือด สมการมันตรงไปตรงมาครับ: การแข็งตัวที่ดี ต้องอาศัยหลอดเลือดที่ยืดหยุ่นและขยายตัวได้เต็มที่ การอักเสบคือศัตรูอันดับหนึ่งของหลอดเลือด และสนามรบที่ตัดสินแพ้ชนะ…คือลำไส้ของคุณ Aspartame & Sucralose: นักฆ่าจุลินทรีย์ในเครื่องดื่มของคุณ แล้วสารให้ความหวานสังเคราะห์เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร? สารเคมีเหล่านี้ […]
ทลายความเชื่อสุขภาพผิดๆ ที่ผู้ชายต้องรู้: เครื่องดื่มชูกำลัง…หนี้พลังงานที่ต้องจ่ายด้วยสมรรถภาพ ในช่วงบ่ายที่สมองเริ่มล้า หรือก่อนการทำงานที่ต้องใช้พลังงานสูง การคว้าเครื่องดื่มชูกำลังเย็นๆ มากระดกดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด คุณรู้สึกตื่นตัวและมีพลังงานพุ่งพล่านในทันที แต่ขอให้คุณรู้ความจริงเบื้องหลังความรู้สึกนั้น…คุณไม่ได้กำลัง “สร้าง” พลังงาน แต่คุณกำลัง “กู้” พลังงานสำรองในอนาคตของร่างกายมาใช้ และดอกเบี้ยของหนี้ก้อนนี้มันแพงมหาศาล เครื่องดื่มชูกำลังคือค็อกเทลที่สมบูรณ์แบบในการทำลายระบบฮอร์โมนของคุณ มันใช้ส่วนผสมหลักสองอย่างคือน้ำตาลปริมาณมหาศาลและคาเฟอีนสังเคราะห์ เพื่อบังคับให้ร่างกายของคุณเข้าสู่ “โหมดเอาตัวรอด” ปล้นชิงพลังงานฉุกเฉินมาให้คุณใช้ชั่วคราว แต่ทิ้งความเสียหายร้ายแรงไว้เบื้องหลัง The Sugar Crash & Adrenal Fatigue: วงจรอุบาทว์ของ “พลังงานเงินกู้” เมื่อคุณดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเข้าไป จะเกิดเหตุการณ์สองอย่างพร้อมกัน: น้ำตาลมหาศาล (เทียบเท่าน้ำตาลทราย 8-12 ช้อนชา) จะทะลักเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงปรี๊ด คาเฟอีนปริมาณสูง จะเข้าไปบล็อกสารสื่อประสาทที่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย (Adenosine) ผลลัพธ์คือคุณรู้สึกตื่นตัวทันที แต่ร่างกายของคุณจะมองว่านี่คือ “ภาวะฉุกเฉิน” ตับอ่อนจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมามหาศาลเพื่อจัดการกับสึนามิน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณดิ่งลงเหวอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา นี่คือภาวะ “Sugar Crash” ที่ทำให้คุณรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม ทั้งเหนื่อยล้า, หงุดหงิด, และสมองตื้อ แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ วงจรที่แกว่งไปมานี้สร้างภาระหนักให้กับ “ต่อมหมวกไต” […]
ทลายความเชื่อสุขภาพผิดๆ ที่ผู้ชายต้องรู้: 3-in-1…เครื่องดื่มเคมีที่ ‘ทำลาย’ ทั้งตับและหลอดเลือด เสียงฉีกซองกาแฟ 3-in-1 ในตอนเช้าคือสัญญาณเริ่มต้นวันใหม่ของใครหลายคน กลิ่นหอมที่คุ้นเคยและความหวานกลมกล่อมที่พร้อมเสิร์ฟในไม่กี่วินาที คือภาพจำของความสะดวกสบายในชีวิตที่เร่งรีบ แต่ผม Mr.MDX ขอบอกความจริงกับคุณว่า สิ่งที่คุณกำลังจะเทลงแก้วนั้น ไม่ใช่ “กาแฟ” แต่คือ “ระเบิดเวลาทางสุขภาพ” ที่ประกอบขึ้นจากส่วนผสมเกรดอุตสาหกรรม 3 ชนิด คุณไม่ได้กำลังดื่ม “กาแฟ, ครีม, และน้ำตาล” แต่คุณกำลังบริโภค “กาแฟคุณภาพต่ำ”, “ไขมันทรานส์อัดแข็ง”, และ “น้ำเชื่อมข้าวโพดชนิดผง” นี่คือค็อกเทลเคมีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำลายสุขภาพของคุณตั้งแต่จิบแรก ส่วนผสมอันดับ 1: เมื่อ “น้ำตาล” คือพระเอก ไม่ใช่ “กาแฟ” นี่คืองานแรกที่ผมอยากให้คุณทำ: เดินไปหยิบซองกาแฟ 3-in-1 ที่คุณมี แล้วพลิกไปดู “รายการส่วนประกอบ” (Ingredient List) ตามกฎหมายการติดฉลากสากล ผู้ผลิตต้องเรียงลำดับส่วนผสมจากปริมาณที่ “มากที่สุด” ไป “น้อยที่สุด” คุณจะพบความจริงที่น่าตกใจว่า ส่วนผสมอันดับแรกสุดในกาแฟ 3-in-1 เกือบทุกยี่ห้อคือ […]
ทลายความเชื่อสุขภาพผิดๆ ที่ผู้ชายต้องรู้: ขนมปังโฮลวีทที่คุณไว้ใจ…อาจเป็นแค่ ‘แป้งขาว’ ย้อมสี คุณเดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยความตั้งใจดี ตรงไปที่แผนกเบเกอรี่และหยิบขนมปังแถวสีน้ำตาลเข้มที่แปะป้ายว่า “โฮลวีท” (Whole Wheat) ขึ้นมาใส่ตะกร้า คุณรู้สึกดีกับตัวเองที่ได้เลือกทางเลือกที่ “ดีต่อสุขภาพ” มากกว่าขนมปังขาว…แต่ผม Mr.MDX ขอบอกความจริงอันน่าผิดหวังให้คุณทราบ: ขนมปังโฮลวีทส่วนใหญ่ที่คุณเห็น คือ “ขนมปังขาวที่ถูกย้อมสี” เท่านั้น บางครั้งอุตสาหกรรมอาหารใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของกฎหมายการติดฉลากและความเข้าใจผิดของผู้บริโภค พวกเขาใช้แป้งขาวขัดสีราคาถูกเป็นส่วนผสมหลัก แล้วเติมรำข้าวเพียงเล็กน้อย หรือแม้กระทั่ง “คาราเมล” เพื่อย้อมสีขนมปังให้เป็นสีน้ำตาล ทำให้มันดู “คลีน” และขายคุณในราคาที่แพงกว่า “Whole Wheat” vs. “Whole Grain”: ความแตกต่างที่ผู้ผลิตไม่อยากให้คุณรู้ เพื่อที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อ คุณต้องเข้าใจโครงสร้างของเมล็ดธัญพืชก่อน ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก: รำข้าว (Bran): เปลือกนอกสุด อุดมไปด้วยไฟเบอร์, วิตามินบี, และแร่ธาตุ จมูกข้าว (Germ): ส่วนเล็กๆ ที่เป็นแหล่งสารอาหารเข้มข้น ทั้งวิตามิน, แร่ธาตุ, และไขมันดี เอนโดสเปิร์ม (Endosperm): […]
ทลายความเชื่อสุขภาพผิดๆ ที่ผู้ชายต้องรู้: ไส้กรอกในจานคุณ…สารก่อมะเร็ง ‘Group 1’ เทียบเท่าบุหรี่ อาหารเช้าแบบอเมริกันที่ประกอบด้วยไข่ดาว, เบคอนกรอบๆ, และไส้กรอกร้อนๆ คือภาพจำของมื้ออาหารที่น่าพึงพอใจ แต่ผมอยากให้คุณหยุดคิดสักนิดว่า บนจานอาหารเช้าของคุณ อาจมีสิ่งที่อันตรายต่อสุขภาพเทียบเท่ากับ “บุหรี่” วางอยู่ นี่ไม่ใช่ความคิดเห็นของผม และไม่ใช่ทฤษฎีสุขภาพสุดโต่ง แต่มันคือการจัดประเภทอย่างเป็นทางการโดย องค์การอนามัยโลก (WHO) ผ่านหน่วยงานวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) ที่ได้ข้อสรุปอันน่าตกใจว่า “เนื้อสัตว์แปรรูป” (Processed Meats) ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็ง Group 1…ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับแร่ใยหิน, พลูโตเนียม, และควันบุหรี่ WHO Carcinogen Classification: Group 1 น่ากลัวแค่ไหน? ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจการจัดประเภทของ IARC ให้ถูกต้อง พวกเขาแบ่งสารต่างๆ ออกเป็นกลุ่มตาม “ความน่าเชื่อถือของหลักฐาน” ที่พิสูจน์ว่ามันก่อมะเร็งในมนุษย์ Group 1: Carcinogenic to humans (เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์) – หมายความว่ามี “หลักฐานเพียงพอและหนักแน่น” ที่สรุปได้ว่าสารนั้นๆ ก่อมะเร็ง […]











