หงุดหงิดง่าย อย่าเพิ่งโทษนิสัย! นี่คืออาการ ‘ลงแดงน้ำตาล’ ที่บงการสมองคุณ

😠 หงุดหงิดง่าย? อย่าเพิ่งโทษนิสัย! นี่คืออาการ ‘ลงแดงน้ำตาล’ ที่บงการสมองคุณ

ตัวตนที่แท้จริงของคุณ…อาจไม่ใช่คนขี้โมโห
เคยไหมครับ… ที่รู้สึกหัวร้อนกับเรื่องเล็กน้อย? ฉุนเฉียวใส่คนรอบข้างตอนท้องว่าง? หรือสมาธิหลุดลอย คิดงานไม่ออกในช่วงบ่าย? หลายคนมักจะสรุปง่ายๆ ว่า “เราก็เป็นคนแบบนี้” หรือ “คงเพราะเครียด” แต่ถ้าผมจะบอกว่า… อาการเหล่านั้นอาจไม่ใช่ “สันดาน” หรือ “นิสัย” ที่แท้จริงของคุณเลยแม้แต่น้อย แต่มันคืออาการทางกายภาพที่เรียกว่า “การลงแดงน้ำตาล” (Sugar Withdrawal) ที่กำลังควบคุมอารมณ์และบงการสมองของคุณอยู่เบื้องหลัง

🎢 The Blood Sugar Rollercoaster: วงจรอุบาทว์ที่ควบคุมอารมณ์
ลองจินตนาการว่าระดับพลังงานและอารมณ์ของคุณเป็น “รถไฟเหาะ” ทุกครั้งที่คุณบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลหรือแป้งขัดขาวสูง (เช่น ชานมไข่มุก, ขนมปังขาว, น้ำอัดลม) ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณจะพุ่งสูงปรี๊ดเหมือนรถไฟที่ไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุด คุณจะรู้สึกดี มีพลังงาน สดชื่น…แต่นั่นเป็นความสุขจอมปลอมที่อยู่กับคุณได้ไม่นาน

เพราะหลังจากนั้น ร่างกายจะตอบสนองด้วยการหลั่งฮอร์โมน “อินซูลิน” ออกมามหาศาลเพื่อกดระดับน้ำตาลลง และบ่อยครั้งที่มันทำงานได้ดีเกินไป จนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ “ดิ่งเหว” ลงมาต่ำกว่าระดับปกติ นี่คือช่วงเวลาที่หายนะทางอารมณ์บังเกิดขึ้นจริงครับ

🧠 “Hangry” is Real: เจาะลึกวิทยาศาสตร์ของอาการ ‘โมโหหิว’
เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว “สมอง” ซึ่งเป็นอวัยวะที่ต้องการพลังงานกลูโคสมากที่สุด จะเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินทันที มันจะส่งสัญญาณเตือนภัยว่า “ฉันกำลังขาดพลังงาน!” และสั่งการให้ร่างกายปล่อย “หน่วยคอมมานโด” ฉุกเฉินออกมา ซึ่งก็คือฮอร์โมนความเครียดอย่าง “คอร์ติซอล (Cortisol)” และ “อะดรีนาลีน (Adrenaline)”

ฮอร์โมนสองชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสู้หรือหนี (Fight-or-Flight Response) มันทำให้หัวใจคุณเต้นเร็ว กล้ามเนื้อเกร็ง และที่สำคัญที่สุดคือทำให้คุณรู้สึก กระวนกระวาย, ก้าวร้าว, และหงุดหงิดง่ายอย่างไม่มีเหตุผล นี่คือกลไกทางชีวเคมีที่อยู่เบื้องหลังอาการ “โมโหหิว” หรือ “Hangry” มันไม่ใช่แค่อารมณ์ แต่มันคือการตอบสนองทางกายภาพที่รุนแรงเพื่อบังคับให้คุณไปหาพลังงาน (น้ำตาล) มาเติมโดยด่วนที่สุด

หยุดรถไฟเหาะ: ทวงคืนการควบคุมอารมณ์ด้วยอาหาร
ข่าวดีคือคุณสามารถลงจากรถไฟเหาะอารมณ์ขบวนนี้ และกลับมาเป็นนายของตัวเองได้ 100% ด้วยการปรับเปลี่ยนอาหาร:

  • เปลี่ยนชนิดคาร์โบไฮเดรต: เลิกทานคาร์โบไฮเดรตขัดขาว แล้วหันมาทาน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (Complex Carbs) เช่น ข้าวกล้อง, ควินัว, มันเทศ, ขนมปังโฮลวีท ซึ่งจะค่อยๆ ปล่อยน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้อารมณ์และพลังงานคงที่ตลอดวัน
  • เพิ่มโปรตีนและไขมันดีทุกมื้อ: โปรตีน (ไก่, ปลา, ไข่, ถั่ว) และไขมันดี (อะโวคาโด, น้ำมันมะกอก, ถั่วเปลือกแข็ง) จะทำหน้าที่เป็น “ตัวเบรก” ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ทำให้อิ่มนานขึ้น และป้องกันภาวะน้ำตาลดิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ไฟเบอร์คือเพื่อนแท้: เน้นการทานผักใบเขียวและผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงในทุกมื้อ ไฟเบอร์จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เสถียร

ตัวตนที่แท้จริงของคุณอาจเป็นคนที่สงบและใจเย็นกว่าที่คุณเคยรู้จัก อย่าปล่อยให้อาการ “ลงแดงน้ำตาล” มาเป็นตัวกำหนดว่าคุณเป็นใคร ทวงคืนการควบคุมอารมณ์ของคุณกลับมา…เริ่มต้นที่มื้ออาหารมื้อต่อไปครับ

Reference:

  1. Healthline – “Hangry: What It Is, Why It Happens, and How to Fix It”:
  2. Cleveland Clinic – “Why You Crave Sugar — And How to Stop”:
  3. Harvard Health Publishing – “Eating to boost energy”:

MDX แบรนด์ผู้ชายอันดับ 1
คิดค้นความล้ำหน้า เพื่อชีวิตผู้ชายมีระดับ

Leave a Reply