EP109: เพื่อนชวนกินของพังๆ…วิธีปฏิเสธแบบ ‘ฉลาด’ ไม่เสียเพื่อน
คุณอยู่ในงานรวมรุ่น…เพื่อนของคุณยื่นเค้กชิ้นที่สองให้พร้อมกับพูดว่า “กินอีกสิ ผอมเกินไปแล้ว!” หรือคุณออกไปกินข้าวกับเพื่อน…แล้วสั่งสลัดแทนเบอร์เกอร์ เพื่อนคนหนึ่งก็แซวขึ้นมาว่า “โห ฟิตจังเลยนะ? ใช้ชีวิตบ้างเพื่อน! สถานการณ์เหล่านี้คือ “แรงกดดันทางสังคม” (Social Pressure) และบางครั้ง…มันก็ยากที่จะต่อต้านยิ่งกว่าความอยากกินอาหารเสียอีก การดูแลสุขภาพไม่ใช่แค่การต่อสู้กับตัวเอง แต่ยังเป็นการต่อสู้กับความคาดหวังและบรรทัดฐานทางสังคมด้วย วันนี้ เราจะไม่ได้มาคุยเรื่องโภชนาการ แต่เราจะมาฝึกฝน “ศิลปะการป้องกันตัวทางสังคม” กันครับ
เข้าใจที่มาของแรงกดดัน: ส่วนใหญ่แล้ว…มันไม่ใช่ความใจร้าย
ก่อนที่เราจะตอบสนอง เราต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่ได้มาจากความตั้งใจร้าย แต่มาจาก 2 เหตุผลหลัก:
อาหารคือภาษาของความรักและความห่วงใย: โดยเฉพาะในวัฒนธรรมไทย การหยิบยื่นอาหารคือวิธีการแสดงออกถึงความรักและการดูแล การปฏิเสธอาหารจึงอาจถูกตีความไปได้ว่าเป็นการปฏิเสธความปรารถนาดีของพวกเขา
ทางเลือกของคุณ…ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นคง: เมื่อคุณเลือกกินสลัด มันอาจไปส่องสปอตไลท์โดยไม่ได้ตั้งใจไปยังเบอร์เกอร์ของพวกเขา ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกตัดสิน การล้อเลียนหรือแซวจึงเป็นกลไกป้องกันตัวเองอย่างหนึ่ง
เมื่อเราเข้าใจที่มา เราจะสามารถตอบสนองได้อย่างชาญฉลาด…โดยไม่สร้างความขัดแย้ง
คู่มือการสื่อสารฉบับ Mr.MDX: หนักแน่นแต่เป็นมิตร
นี่คือ “สคริปต์” ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ตามสถานการณ์:
สถานการณ์ A: เมื่อเจอ “สายยัดเยียด” (The Pusher)
- เป้าหมาย: ชื่นชมความใจดีของเขา แต่ปฏิเสธอย่างสุภาพ โดยไม่วิจารณ์ว่าอาหารนั้น “ไม่ดี”
- เทคนิค: “ชื่นชม แล้วเบี่ยงเบน” (Praise & Pivot)
- สคริปต์ตัวอย่าง:
- (สำหรับญาติผู้ใหญ่): “โอ้โห เค้กคุณป้าอร่อยที่สุดเลยครับ! ชิ้นแรกนี่สุดยอดมากจริงๆ แต่ตอนนี้ผมอิ่มมากๆ เลยครับ ขออนุญาตผ่านก่อนนะครับ” (วิธีนี้คือการชื่นชมฝีมือเขาก่อน แล้วค่อยปฏิเสธ)
- (สำหรับเพื่อน): “ขอบคุณมากเพื่อน แต่ตอนนี้แน่นท้องจริงๆ ว่ะ ขอพักก่อนนะ” (วิธีนี้คือการโทษ “สภาพร่างกาย” ของเราเอง ไม่ใช่โทษอาหารของเขา)

- เป้าหมาย: ปัดการล้อเลียนทิ้งไปด้วยความมั่นใจและอารมณ์ขัน โดยไม่แสดงอาการหงุดหงิดหรือตั้งรับ
- เทคนิค: “เห็นด้วย แล้วขยายความ” (Agree & Amplify) หรือ “ตอบอย่างมั่นใจ”
- สคริปต์ตัวอย่าง:
- (แบบติดตลก): “ใช่เลยเพื่อน! กำลังปั้นหุ่นไปประกวดอยู่เนี่ย อย่าให้แพ้!” (การใช้อารมณ์ขันจะแสดงให้เห็นว่าคำพูดของเขาไม่มีผลกับคุณ)
- (แบบนิ่งๆ แต่มั่นคง): “พอดีช่วงนี้กำลังโฟกัสเรื่องสุขภาพเป็นพิเศษน่ะ” (เป็นประโยคที่เรียบง่าย, เป็นจริง, และไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม มันไม่ใช่ “ข้อแก้ตัว” แต่คือ “การประกาศจุดยืน”)
บทสรุป: ความมั่นใจคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด

จงฝึกใช้ประโยคเหล่านี้ด้วยความมั่นใจครับ ในตอนแรกอาจจะรู้สึกแปลกๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนรอบข้างจะเริ่มเคารพการตัดสินใจของคุณ…และวันหนึ่ง จากคนที่เคยถูกล้อเลียน คุณอาจจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาโดยไม่รู้ตัวก็ได้
Sources:
- American Psychological Association (APA)
URL: https://www.apa.org/topics/peer-pressure
- Mayo Clinic – (Section: Assertive Communication)
URL: https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/in-depth/assertive/art-20044648
- Psychology Today – (Section: Boundaries)
URL: https://www.psychologytoday.com/us/basics/boundaries
- Academy of Nutrition and Dietetics (eatright.org)
URL: https://www.eatright.org/
- Centers for Disease Control and Prevention (CDC) – Social Determinants of Health
URL: https://www.cdc.gov/socialdeterminants/
MDX แบรนด์ผู้ชายอันดับ 1
คิดค้นความล้ำหน้า เพื่อชีวิตผู้ชายมีระดับ


