ปัญหาที่ถือว่าเป็นที่หนักอกหนักใจสำหรับผู้ชายหลายๆ คน หนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้นปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ใช่ไหมล่ะครับ เพราะเป็นสิ่งที่ทำลายความมั่นใจ ทำให้ดูไม่หล่อ ไม่เท่ เหมือนหนุ่มผมหนาคนอื่นๆ ซึ่งโดยปกติเส้นผมของคนเรานั้น มักจะร่วงเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วประมาณ 50 – 100 เส้นต่อวัน ประกอบกับธรรมชาติที่ผู้ชายอย่างเราๆ อาจจะมีแนวโน้มที่ผมร่วงจนเกิดศีรษะล้านได้ขึ้นอีก ทั้งนี้อาจมีปัจจัยเสริมอื่นๆ เช่น กรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม สุขภาพ อาหารการกิน เป็นต้น ซึ่งตามอายุขัยแล้ว เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น รูขุมขนและหนังศีรษะก็จะเริ่มเสื่อมสภาพไปตามวัย แต่สำหรับหนุ่มๆ บางคนที่มีอายุยังไม่มากแต่ก็ประสบปัญหาผมร่วงศีรษะล้านกันแล้ว
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาดังกล่าว Dr.MDX ก็มีวิธีรับมือกับปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านมาแนะนำเพื่อนๆ ทุกคนกัน เพราะหากเรารู้ทันรักษาไว ก็จะได้ไม่เสี่ยงต่อศีรษะล้านก่อนวัยอันควรกันยังไงล่ะครับ แต่ส่วนจะมีวิธีใดบ้างนั้นไปดูกันเลย
- ใช้ยาสระผมสำหรับผมร่วงปัญหาผมร่วงสามารถแก้ไขได้โดยการใช้ยาสระผมสำหรับผมร่วงโดยเฉพาะ ที่มีสรรพคุณในการกระตุ้นเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง ไม่ขาดหลุดร่วงได้ง่าย โดยควรหมั่นดูแลและบำรุงอยู่เป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรืออาจหมักทรีทเมนท์ที่ช่วยรักษารากผมร่วมด้วยประมาณสัปดาห์ละครั้ง
- นวดบำรุงหนังศีรษะเป็นประจำหมั่นนวดบำรุงหนังศีรษะขณะสระผมด้วยเป็นประจำ เพื่อเป็นการช่วยผลัดเซลล์หนังศีรษะและยังเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ทำงานดีขึ้น รวมทั้งทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้เส้นผมแข็งแรงไม่ขาดร่วงง่าย โดยอาจบำรุงด้วยครีมนวดผม วิตามินบำรุงผม หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากธรรมชาติที่ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม เช่น มะกรูด น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงความร้อนจากการสระผมด้วยน้ำร้อนที่มากจนเกินไปเพราะจะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้งได้ ซึ่งส่งผลให้เส้นผมอาจจะขาดและหลุดร่วงได้ง่าย รวมถึงหลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงผมด้วยการใช้ไดร์เป่าผมด้วยลมร้อน โดยเปลี่ยนเป็นการเป่าผมด้วยลมเย็นจะเป็นการดีที่สุด
- ไม่หวีผมบ่อยจนเกินไปเพราะการหวีผมหรือแปรงผมบ่อยๆ นั้น นอกจากจะทำให้หนังศีรษะได้รับแรงกดเกินจำเป็นแล้ว ยังเป็นการทำร้ายรากผมให้อ่อนแอ ส่งผลให้เส้นผมหลุดร่วงได้ง่ายขึ้น แถมยังเสี่ยงต่อศีรษะล้านได้อีกด้วย ทางที่ดีไม่ควรหวีผมบ่อยจนเกินไป หรืออาจใช้แค่นิ้วมือสางเบาๆ พอแต่งผมให้อยู่ทรงเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ที่สำคัญไม่ควรหวีผมขณะผมเปียก เพราะเป็นช่วงที่เส้นผมเปราะบางมาก จึงทำให้เส้นผมสามารถขาดและหลุดร่วงได้ง่าย
- การไว้ผมสั้นดีที่สุดสำหรับผู้ชายบางคนอาจจะชอบไว้ผมยาว เพราะดูเท่และดูเข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง แต่หากเกิดปัญหาผมร่วงผมบางแล้วละก็ แนะนำว่าควรตัดผมให้สั้นไว้จะเป็นการดีที่สุดครับ เพราะยิ่งไว้ผมยาวมากขึ้นเท่าไร น้ำหนักของเส้นผมก็จะยิ่งดึงรั้งรากผมมากขึ้นเท่านั้น จนทำให้ผมบริเวณส่วนบนของศีรษะบางลงเรื่อยๆ อีกทั้งยิ่งไว้ผมยาวเส้นผมก็ยิ่งมีความต้องการปริมาณสารอาหารที่มากขึ้น ซึ่งหากดูแลและบำรุงเส้นผมได้ไม่ดี ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเกิดผมร่วงผมบางศีรษะล้านได้มาก
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมประเภทเจลหรือแว็กซ์จริงอยู่ที่ว่าเจลหรือแว็กซ์แต่งผม สามารถช่วยจัดแต่งทรงผมได้อย่างรวดเร็วทันใจ แต่ทราบกันหรือไม่ว่าสิ่งนี้กลับยิ่งทำให้เส้นผมที่บางของคุณยิ่งดูเรียบติดกับหนังศีรษะ แถมยังทำให้ดูผมบางมากกว่าเดิมอีกด้วย ทางที่ดีควรเปลี่ยนมาใช้พวก Clay Powder หรือ Matte Powder ที่ให้ลุคแมตต์ ไม่มันเยิ้มจะดีกว่าครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมบ่อยจนเกินไป เพราะสารเคมีจะไปขัดขวางการเจริญเติบโตของรากผม และน้ำมันตามธรรมชาติของหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมอ่อนแอและขาดหลุดร่วงได้ง่าย
- อย่าเครียดจนเกินไปความเครียดและความวิตกกังวลนั้นเป็นตัวกระตุ้นฮอร์โมนให้เส้นผมหยุดการเจริญเติบโต และขาดหลุดร่วงได้ง่าย แถมความเครียดนั้นยังส่งผลเสียต่อระบบอื่นๆ ในร่างกายได้อีกด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความตึงเครียด จึงควรหากิจกรรมอย่างอื่นทำ เช่น ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง เพื่อผ่อนคลายและทำให้ตัวเองร่าเริงสดใส แล้วค่อยๆคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆดีกว่าจะเครียดเกินจนทำอะไรไม่ได้ครับ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพราะการบำรุงเส้นผมแค่เพียงภายนอกอย่างเดียวอาจจะยังไม่เพียงพอ ต้องหันมาบำรุงร่างกายภายในด้วย โดยการเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อเส้นผม อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก โปรตีน และวิตามินต่างๆ เช่น ถั่วดำ งาดำ ผลไม้ ผักใบเขียว ไข่แดง เนื้อสัตว์ และธัญพืชต่างๆ เป็นต้น รวมถึงการดื่มน้ำให้มีปริมาณเพียงพอในแต่ละวัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อเส้นผม เพราะช่วยบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรงและช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมได้
- พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหากยังประสบกับปัญหาผมร่วงอย่างรุนแรงจนทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านตามมาแล้วละก็ การพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษา ซึ่งอาจจะเลือกใช้วิธีการปลูกถ่ายเส้นผมหรือเทคนิคการรักษาในรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้อย่างรวดเร็วมาเป็นทางเลือกในการช่วยแก้ไขปัญหาก็ได้
เมื่อได้ทราบคำแนะนำดีๆ ทั้ง 9 ข้อนี้แล้ว ยังไงก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กับตัวเองกันด้วยนะครับ เพื่อจะได้รับมือป้องกันและแก้ไขปัญหาผมร่วงผมบางได้อย่างตรงจุด และไม่เสี่ยงต่อปัญหาผมล้านได้ในอนาคตครับ
อาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผม
อาหารบำรุงผมและผิวมีหลายชนิดที่ช่วยได้ดี มี 8 อย่างที่แนะนำให้ทานกันครับ
- น้ำ ช่วยล้างพิษในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยเพิ่มความหนาแน่น ความหนา ให้กับผิว ช่วยการไหลเวียนของเลือด และช่วยให้ผิวไม่แห้ง และน้ำยังเป็นส่วนประกอบของอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย แหล่งอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ๆ ได้แก่ ผักและผลไม้
- กาแฟ มีคาเฟอีน มีส่วนช่วยให้ผิวหนังไม่แห้ง สามารถนำมาใช้ทาในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อให้ผิวหนังบริเวณนั้นนุ่มลื่น นอกจากนี้ มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Harvard ด้วยว่า การดื่มกาแฟวันละแก้ว ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี
- เนื้อวัว ให้โปรตีน ซึ่งนับว่าเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดี ผิวสวย ผมหนาเงางาม เพราะโปรตีน จะช่วยไม่ให้ผิวและผม แห้งเปราะ กระตุ้นให้ผมงอก และช่วยซ่อมแซมผิวหนัง นอกจากเนื้อวัวแล้ว ก็ยังมีแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพอื่น ๆ อีกเช่น ปลา เนื้อหมู และเนื้อแดงอื่น ๆ เช่น เนื้อแกะ ซึ่งมีซิงค์สูง รวมไปถึงอาหารพวกโยเกิร์ต ซึ่งมีวิตามินบี 5 หรือกรดแพนโทเธนิค ที่ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิต ป้องกันไม่ให้ผมร่วง
- แซลมอน สิ่งที่มีประโยชน์ต่อผมและผิวมากก็คือ กรดไขมัน ซึ่งเรียกว่าเป็นไขมันดี มีประโยชน์ต่อเซลผิวหนัง เพราะมีโอเมก้า 3 ช่วยทำให้เยื่อบุเซลผิวหนังมีความสมบูรณ์ ช่วยเก็บรักษาน้ำในผิว และยังช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี แหล่งอาหารอื่น ที่มีกรดไขมันได้แก่ เมล็ดทานตะวัน และปลาฉนาก
- ข้าวกล้อง สารอาหารที่สำคัญต่อผมและผิวในข้าวกล้องคือ ซีลีเนียม และเนื่องจากในข้าวกล้อง มีปริมาณของซีลีเนียมสูง แร่ธาตุดังกล่าว มีส่วนช่วยในการลดสิวในวัยผู้ใหญ่ เมื่อไปรวมเข้ากับวิตามินอี นอกจากนั้น ยังช่วยลดรังแค และกระตุ้นให้ผมงอกออกมาเร็วยิ่งขึ้น ธาตุซีลีเนียมนี้ นอกจากจะมีในข้าวกล้องแล้ว ยังมีอยู่ในอาหารชนิดอื่นอีกเช่น ทูน่า กระเทียม ไข่ เนื้อวัว เนื้อแกะ และเนื้อไก่งวง
- มะเขือเทศ มีวิตามินซี เป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับ ดูอ่อนวัย อีกทั้งยังช่วยปกป้องผิวหนังจากการทำลายของแสงแดด ป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนัง นอกจากมะเขือเทศแล้ว ยังมีอาหารที่ให้ประโยชน์ไม่แพ้กันคือ พริกหยวก บร็อคโครี่ และ ผักโขม
- แครอท มีสารอาหารที่สำคัญต่อผมและผิวคือ วิตามินเอ เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวหนังของเราจะได้รับผลกระทบจากภาวะความไม่สมดุลย์ของอนุมูลอิสระ เคมีต่าง ๆ จะก่อทำให้เซลผิวหนังเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอย สูญเสียความยืดหยุ่น และสารอาหารที่จะช่วยชลอการเกิดกระบวนการดังกล่าวนี้ก็คือวิตามินเอ ซึ่งจะมาในรูปของเบต้า แคโรทีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากแครอทแล้ว ยังมีอาหารที่ให้คุณค่าเช่นเดียวกันคือ มันหวาน และพริกหยวก
- ผักโขม มีวิตามินอี ช่วยให้ผิวรักษาความชุ่มชื้นของผิวตามธรรมชาติ และยังช่วยลดการอักเสบ และการเกิดสิว ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ลดความเสียหายจากการถูกแสงแดดแผดเผา แหล่งอาหารอื่น ที่ให้คุณค่าอาหารเช่นเดียวกัน ได้แก่ แอพพารากัส โอลิฟ ถั่ว และธัญพืช
ข้อมูลอ้างอิง
- บทความเรื่อง “8 วิธีรับมือปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ที่ผู้ชายควรรู้”
- บทความเรื่อง “ผมร่วงแค่ไหน ถึงเรียกว่า “ผมร่วง” มากจริงๆ?”