คุณผู้ชายหลายคน โดยเฉพาะช่วงอายุ 40 ขึ้นไป อาจเคยเกิดอาการปัสสาวะไม่สุด เบ่งยาก ไหลช้า ซึ่งดูเผิน ๆ ก็ไม่น่ากังวลอะไร แต่จริง ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่ผู้ชายวัยทำงานไม่ควรมองข้าม!
ภาวะปัสสาวะขัด (Urinary hesitancy) คืออาการที่ถ่ายปัสสาวะลำบาก ต้องใช้เวลาเบ่งนาน น้ำปัสสาวะไหลช้า หรือออกเป็นหยด ๆ บางคนรู้สึกเหมือนปัสสาวะไม่สุดอยู่ตลอดเวลา บางครั้งอาจมีภาวะอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะเป็นเลือดหรือมีสีขุ่น กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือฉี่ไม่ออกเลย ไปจนถึงปวดหลัง ปวดท้องน้อย หรือปวดอัณฑะ และน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
คุณสามารถพิจารณาอาการต่าง ๆ ว่ามีความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่โรคอไรบ้าง ดังนี้
1. ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia – BPH) พบมากในผู้ชายอายุ 50+ ต่อมลูกหมากที่ขยายใหญ่จะกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะติดขัด ไหลช้า และต้องตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อย โดยมีลักษณะปัสสาวะนาน ต้องเบ่งบ่อย รู้สึกปล่อยไม่สุด
2. มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer) อาการคล้ายกับ BPH แต่รุนแรงกว่า โดยอาจมีภาวะน้ำหนักลด ปวดหลัง หรือปัสสาวะเป็นเลือด ควรพบแพทย์ทันที ซึ่งสามารถตรวจได้ด้วยวิธี PSA test และการตรวจทางทวารหนัก (DRE)
3. นิ่วในกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะ สาเหตุเกิดจากมีนิ่วก้อนเล็ก ๆ อุดตันท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการปัสสาวะขัด แสบ เจ็บ หรือมีเลือดปน ซึ่งเกิดจากการดื่มน้ำน้อย หรืออั้นปัสสาวะบ่อยจนเป็นนิสัย
4. การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infection – UTI) แม้จะพบได้น้อยในผู้ชาย แต่เมื่อเป็นแล้วมักรุนแรง เช่น ปวดแสบ ปัสสาวะขุ่น มีกลิ่นแรง หรือมีไข้ร่วมด้วย
5. ท่อปัสสาวะตีบ (Urethral Stricture) อาจเกิดจากอุบัติเหตุ การติดเชื้อ หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน ทำให้ปัสสาวะไหลอ่อนหรือขัดเรื้อรัง
6. ปัญหาทางระบบประสาทอื่น ๆ เช่น เบาหวานเรื้อรังหรือโรคพาร์กินสัน อาจทำให้การควบคุมปัสสาวะผิดปกติ ปัสสาวะไม่สุดหรือกลั้นไม่อยู่
เคล็ดลับป้องกันปัสสาวะขัดง่าย ๆ …แต่เรามักละเลย
- ดื่มน้ำสะอาดวันละ 6–8 แก้ว
- อย่ากลั้นปัสสาวะนาน
- ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ตรวจสุขภาพต่อมลูกหมากทุกปี โดยท่านที่มีอายุ 50 ขึ้นไป
เพราะผู้ชายยุคใหม่ ต้องฟังเสียงจาก “ร่างกาย” อยู่เสมอ
อย่าปล่อยให้ร่างพังอย่างเงียบ ๆ เพราะการละเลยอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งอาจลุกลามกลายเป็นโรคภัยได้ในอนาคต การดูแลสุขภาพทางเดินปัสสาวะนั้นมีความสำคัญไม่แพ้ระบบหลอดเลือดหัวใจเลยทีเดียว ดังนั้น หากเริ่มมีอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อย ห้ามละเลยเด็ดขาด
…เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกาย ให้คุณใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจังได้แล้ว!