แสงแดดตัวร้าย คุกคามดวงตาหนุ่มสายลุย

สำหรับผู้ชายสายลุย การได้ไปใช้ชีวิตกลางแจ้งไม่ใช่แค่เรื่องของไลฟ์สไตล์ แต่กลายเป็นความสุขเล็ก ๆ ที่ช่วยเติมพลังชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งการเดินทางท่องเที่ยว ไปจนถึงการเล่นกีฬากลางแจ้งอย่างการวิ่งหรือตีกอล์ฟ …แต่รู้ไหมว่า แสงแดดที่กระทบดวงตาของเราโดยตรง อาจสะสมผลเสียมากกว่าที่คิด

UV ในแสงแดด ตัวร้ายทำดวงตาเสียหายมากกว่าที่คิด

รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ในแสงแดด ไม่ได้ทำร้ายแค่ผิวหนัง แต่ยังส่งผลต่อ “ดวงตา” ด้วย โดยเฉพาะกับคุณผู้ชายที่ไม่ใส่ใจปกป้องดวงตาเหมือนกับการดูแลรูปร่างหรือผิวพรรณ ซึ่งอาการและโรคดวงตาที่พบบ่อยจากผลของแสงแดด ได้แก่:

  • ตาแห้ง (Dry Eye Syndrome) พบบ่อยในคนที่ต้องเพ่งมองกลางแจ้งเป็นเวลานาน เช่น ขับรถ หรือมองแสงจ้าโดยไม่สวมแว่นกันแดด อาการที่พบบ่อยคือแสบตา เคืองตา น้ำตาไหลง่าย
  • ต้อลม (Pinguecula) และ ต้อเนื้อ (Pterygium) เกิดจากการระคายเคืองเรื้อรังของเยื่อบุตาขาวที่สัมผัสแสงแดดและลม อาจเริ่มจากผิวตาดูขุ่นมัวและแดง ก่อนจะลุกลามไปสู่เนื้อเยื่อเข้าสู่ตาดำ
  • ต้อกระจก (Cataract) ภาวะเลนส์ตาขุ่นมัวที่พบมากในผู้สูงอายุ ซึ่งการได้รับ UV อย่างต่อเนื่องก็เร่งให้เกิดอาการเร็วกว่าปกติ
  • จอประสาทตาเสื่อม (Age-related Macular Degeneration – AMD) โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป แสงแดดอาจเร่งให้จอประสาทตาเสื่อมเร็วขึ้น ทำให้การมองเห็นแย่ลงแบบถาวร

ข่าวร้าย! สายลุยคือกลุ่มเสี่ยงมากที่สุด

โชคร้ายสำหรับผู้ชายที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมไปถึงคนทำงานที่ต้องเดินทางบ่อย วิศวกรไซต์งาน หรือสายสปอร์ตสุดสตรองที่มักไม่ใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา กลายเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคดวงตามากที่สุด โดยเฉพาะผู้ชายวัย 30-50 ปี ที่ร่างกายเริ่มฟื้นฟูตัวเองได้น้อยลง แสงแดดจึงทำให้ดวงตาเสื่อมได้มากกว่าวัยรุ่น

ข่าวดี! แสงแดดตัวร้ายป้องกันง่ายกว่าที่คิด

การป้องกันไม่จำเป็นต้องยุ่งยากหรือเสียเงินมาก เพียงเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว

  1. สวมแว่นกันแดดที่มีคุณสมบัติป้องกัน UV 100% – เลือกแว่นกันแดดระดับ UV400 หรือมีการรับรองว่ากรองรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้รังสีทะลุเข้าสู่ดวงตา
  2. ใส่หมวกปีกกว้างหรือหมวกแก๊ป – แม้ไม่ได้สวมแว่นกันแดด หมวกก็สามารถช่วยลดปริมาณแสงที่เข้าสู่ดวงตาโดยตรงได้มากถึง 50%
  3. หลีกเลี่ยงการมองแดดจ้าโดยตรง – โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น. ที่รังสี UV เข้มข้นที่สุด
  4. ใช้น้ำตาเทียมเมื่อรู้สึกตาแห้ง – การหยอดน้ำตาเทียมวันละ 1-2 ครั้ง จะช่วยลดความระคายเคืองและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา โดยเฉพาะผู้ที่อยู่กลางแจ้งหรือที่ ๆ มีลมแรง
  5. ตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง – การตรวจตาไม่ใช่เรื่องของผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังสำคัญกับวัยทำงาน เพื่อให้รู้ถึงอาการของโรคต่าง ๆ ได้ทันท่วงที
  6. เสริมพลังให้ดวงตาง่าย ๆ ด้วยอาหาร – เน้นกลุ่มที่อุดมด้วยวิตามิน A เช่น แครอท ฟักทอง ตับไก่, ลูทีนและซีแซนทีน (Lutein & Zeaxanthin) เช่น จากผักใบเขียวเข้มอย่าง คะน้า ปวยเล้ง, โอเมก้า-3 จากปลาแซลมอน ปลาทู หรือเมล็ดแฟลกซ์ รวมถึงวิตามิน C และ E ที่ได้จากผลไม้ตระกูลส้ม ถั่วอัลมอนด์ และอะโวคาโด

ไลฟ์สไตล์กลางแจ้งไม่ใช่เรื่องแย่ ถ้าดูแลอย่างถูกต้อง

การใช้ชีวิตกลางแจ้งไม่ใช่เรื่องผิด แต่เราต้องมี “เกราะป้องกัน” ที่เหมาะสม โดยเฉพาะคุณผู้ชายที่ใช้ชีวิตแบบเอ็กซ์ตรีม อย่าลืมว่า การป้องกันวันนี้คือการถนอมสุขภาพดวงตาที่ดีของคุณในอนาคต

Leave a Reply