ถุงยางแตก!!! รวมเรื่องน่ารู้กับปัญหาถุงยางแตก

หนุ่มๆ หลายคนมีความกังวลอยู่มาก เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างปฏิบัติภารกิจ การที่ถุงยางอนามัยขาด รั่ว หรือหลุด ทำให้หลายคนถึงขั้นเครียด นอนไม่หลับ เป็นกังวลกันยกใหญ่ และหลายๆ ครั้ง คุณผู้ชายก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกกับปัญหานั้นอย่างไร

วันนี้ Dr.MDX จึงนำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาถุงยางแตก มาฝากหนุ่มๆ ทุกคนกัน เพื่อเป็นความรู้ก่อนเลือกใช้ถุงยางอนามัย นอกจากนี้ยังมีแนวทางการแก้ปัญหาหากเกิดถุงยางแตกขึ้นมาจริงๆ

เหตุใดถุงยางจึงแตก ?

ถุงอนามัยแตกเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ขณะทำกิจกรรมทางเพศร่วมกัน โดยเกิดจากสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นสภาพถุงยางอนามัยที่ใช้และปัจจัยอื่น เช่น

• ขนาดเล็กเกินไป
  คุณเลือกถุงยางอนามัยที่มีขนาดเล็กเกินไปกับขนาดน้องขายของคุณ ส่งผลให้ไม่เหลือพื้นที่บริเวณปลายสุดของถุงยางเมื่อหลั่งอสุจิออกมา จึงเกิดการรั่ว หรือแตกได้
• หมดอายุ
  ถุงยางอนามัยที่หมดอายุ หรือเก่ามากอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของถุงยาง คุณควรดูวันหมดอายุที่ระบุบนหีบห่อก่อนซื้อ หรือก่อนจะนำมาใช้ หากถุงยางอนามัยหมดอายุแล้วควรทิ้งไป ห้ามนำมาใช้เด็ดขาด
• อยู่ใกล้แสงหรือความร้อน
  ผู้ที่วางถุงยางอนามัยทิ้งไว้ในที่ที่มีแสงและอุณหภูมิร้อนจะทำให้ถุงยางอนามัยเสื่อมสภาพ ดังนั้นไม่ควรเก็บถุงยางไว้ในที่ที่อับและเกิดความร้อนได้ง่าย เช่น ช่องเก็บของในรถ หรือกระเป๋าเงิน เป็นต้น ทางที่ดีควรเก็บถุงยางอนามัยในที่มืดและเย็น เช่นในกล่องถุงยางอนามัยนี่แหละครับ
• ถุงยางขาด
  ถุงยางแตกนั้นอาจเกิดขึ้น จากการถูกของมีคมเช่น เล็บ หรือฟันกัดจนขาด ซึ่งหากคุณมีกิจกรรมที่เสี่ยงอย่างที่กล่าวไปแล้ว ควรระวังเป็นพิเศษ
• ใช้สารหล่อลื่นแบบน้ำมัน
  สารหล่อลื่นชนิดน้ำมันจะทำให้ยางของถุงยางอนามัยเสื่อมสภาพ จนทำให้ถุงยางรั่วซึมได้ง่าย โดยสารหล่อลื่นที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมมีหลายอย่าง เช่น น้ำมันทาผิวเด็ก หรือน้ำมันพืช เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารหล่อลื่น หรือหากต้องการใช้จริงๆ ควรเลือกแบบที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
• สารหล่อลื่นไม่พอ
  การมีเพศสัมพันธ์โดยที่สารหล่อลื่นจากอวัยวะเพศน้อยเกินไปอาจส่งผลให้ถุงยางแตกได้ คู่รักที่ร่วมเพศทางทวารหนักหรือช่องคลอดควรใช้สารหล่อลื่นอื่นช่วย โดยเลือกสารหล่อลื่นชนิดละลายน้ำแทนสารหล่อลื่นชนิดน้ำมัน

ทำอย่างไรเมื่อถุงยางแตก ?

หากพบว่าถุงยางแตกขณะมีเพศสัมพันธ์อาจเสี่ยงเกิดปัญหาทั้งเรื่องการตั้งครรภ์ และเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ได้ และหากเกิดปัญหาถุงยางอนามันแตกขึ้นมาจริงๆ คุณควรจัดการดังนี้

วิธีจัดการถุงยางแตกสำหรับการร่วมเพศทางช่องคลอด

– ฝ่ายหญิงควรรีบเข้าห้องน้ำและปัสสาวะออกมา เพื่อขับตัวอสุจิที่อาจอยู่ใกล้ท่อปัสสาวะ โดยนั่งยองๆ และขมิบกล้ามเนื้อช่องคลอดขณะที่นั่งปัสสาวะ
– ห้ามฉีดน้ำหรือล้างข้างในช่องคลอด เนื่องจากหากยิ่งฉีด ตัวอสุจิหรือเชื้อแบคทีเรียจะยิ่งเข้าไปในช่องคลอดมากขึ้น ส่งผลให้เสี่ยงตั้งครรภ์หรือได้รับเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ การฉีดน้ำเข้าไปในช่องคลอดยังไปล้าง- แบคทีเรียชนิดดีที่ช่วยป้องกันการเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
– ฝ่ายหญิงควรทำความสะอาดอวัยวะเพศตนเอง โดยราดน้ำอุ่นที่อวัยวะเพศขณะที่นั่งยอง ๆ บนโถสุขภัณฑ์
– ฝ่ายหญิงอาจต้องรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ในกรณีที่ไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น โดยรับประทานยาภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังถุงยางแตก เนื่องจากอาจเสี่ยงตั้งครรภ์ได้
– ควรเข้ารับการตรวจสุขภาวะทางเพศภายใน 14 วันหลังถุงยางแตก หรือเร็วกว่านั้นในกรณีที่เกิดอาการอื่น
– ควรพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวี

วิธีจัดการถุงยางแตกสำหรับการร่วมเพศทางทวารหนัก

– ควรถ่ายหนักเพื่อกำจัดอสุจิที่อาจตกค้างออกมาให้มากที่สุด
– ไม่ควรฉีดน้ำหรือล้างข้างในช่องทวาร เนื่องจากแรงฉีดน้ำอาจทำให้เกิดน้ำในทวารหนัก ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเชื้อเอชไอวีมากขึ้น
– ควรเข้ารับการตรวจสุขภาวะทางเพศและตรวจทวารหนักภายใน 14 วันหลังถุงยางแตก หรือเร็วกว่านั้นในกรณีที่เกิดอาการอื่น ๆ
– ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อเอชไอวี

วิธีจัดการถุงยางแตกสำหรับการทำออรัลเซ็กส์

– ควรคายหรือกลืนอสุจิทันที ไม่อมอสุจิไว้ในปาก
– บ้วนปากด้วยน้ำสะอาด
– ไม่ควรแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังถุงยางแตกและอสุจิเข้าปาก
– ควรเข้ารับการตรวจสุขภาวะเพศและตรวจคอภายใน 14 วันหลังถุงยางแตก หรือเร็วกว่านั้นในกรณีที่เกิดอาการอื่น ๆ

ถุงยางแตก ป้องกันอย่างไร?

เห็นแล้วใช่ไหมครับว่า ปัญหาถุงยางอนามัยแตกนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีป้องกันนะครับ หากเรารู้วิธีการตรวจสอบถุงยางอนามัยแล้ววิธีป้องกันเบื้องต้น ก็จะเพิ่มความมั่นใจในการบรรเลงเพลงรักของเราได้..ใช่ไหมหละครับ

วิธีการป้องกันถุงยางอนามัยแตก ทำได้ดังนี้

– เลือกใช้ถุงยางอนามัยให้เหมาะสมกับขนาดอวัยวะเพศของตนเอง
– ห้ามแกะถุงยางอนามัยออกมาด้วยของมีคม เช่น กรรไกร หรือกัดด้วยฟัน รวมทั้งสวมถุงยางอนามัยอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันเล็บไปกรีดถุงยางจนเกิดรอยรั่วหรือขาด
– ตรวจดูสภาพถุงยางอนามัยก่อนนำมาใช้ทุกครั้ง หากพบว่ามีรอยขาดหรือรอยรั่ว ไม่ควรนำมาใช้
– ไม่ใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุ โดยดูวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ก่อนนำมาใช้ทุกครั้ง เนื่องจากถุงยางอนามัยจะเสื่อมสภาพเมื่อเริ่มเก่า
– ควรใช้ถุงยางอนามัยเพียงครั้งเดียว ห้ามนำกลับมาใช้ซ้ำ
– ควรสวมถุงยางอนามัยเพียงชิ้นเดียว หากสวมถุงยางอนามัยมากกว่านั้น อาจก่อให้เกิดการเสียดสีจนถุงยางอนามัยฉีกขาดได้
– ควรสวมถุงยางอนามัยให้ดีก่อนร่วมเพศ โดยใช้มือหนึ่งจับปลายถุงยาง และใช้มืออีกข้างค่อย ๆ รูดม้วนถุงยางจนถึงฐานอวัยวะเพศชาย ควรให้ถุงยางคลุมอวัยวะเพศพอดีและไล่ฟองอากาศออกไปจนหมด
– ควรเก็บถุงยางอนามัยให้พ้นจากที่ที่มีแสงส่องถึงหรือมีความร้อน เนื่องจากจะทำให้ถุงยางแห้งลงและเสื่อมสภาพ
– ไม่ควรใช้โลชั่น น้ำมัน หรือสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน แต่เลือกใช้สารหล่อลื่นชนิดน้ำเท่านั้น
– ห้ามพกถุงยางอนามัยไว้ในกระเป๋าสตางค์ เนื่องจากอาจทำให้ถุงยางพับงอจนรั่วได้
– หากพบว่าถุงยางแตกหรือขาดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ควรหยุดกิจกรรมทางเพศและเปลี่ยนถุงยางอนามัยชิ้นใหม่ทันที

วิธีการเลือกถุงยางอนามัย

อย่างที่ทราบกันแล้วว่าสาเหตุหนึ่งของปัญหาถุงยางแตกนั้นเกิดมาจาก การเลือกถุงยางอนามัยไม่ถูกต้อง วันนี้จึงอย่างพาทุกคนไปดูวิธีการเลือกถุงยางอนามัยที่ถูกวิธีกันครับ

1. ไซส์ของเจ้าโลกและถุงยาง

เริ่มจากวัดขนาดเส้นรอบวงของน้องชายขณะแข็งตัวเต็มที่ แล้วนำไปหารด้วย 2 ก็จะได้ขนาดของน้องชายสำหรับนำไปเลือกซื้อถุงยาง โดยถุงยางอนามัยที่วางขายในบ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นไซส์ 49, 52 และ 54 มิลลิเมตร ซึ่งสองแบบแรกเป็นไซส์มาตรฐานของหนุ่มไทย ส่วนไซส์ 54 มิลลิเมตรนั้นสำหรับชาวต่างชาติ (หรือสำหรับหนุ่มไทยไซส์บิ๊ก) ซึ่งการเลือกไซส์ที่เหมาะกับตัวเอง จะช่วยให้บรรเลงเพลงรักได้แบบจัดเต็ม โดยไม่ต้องกังวลว่าถุงยางจะหลุด

2. วัสดุที่ใช้ทำถุงยาง

วัสดุหลัก ๆ ที่ใช้ในการผลิตถุงยางอนามัยมีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน ได้แก่

ถุงยางทำจากหนังแกะ จะทำให้รู้สึกสบายขณะสวมใส่และไม่รัดแน่นมากเกินไป รวมถึงให้ผิวสัมผัสที่ดีในการร่วมเพศ ทว่าเป็นถุงยางที่ไม่ค่อยมีความยืดหยุ่นสักเท่าไร แถมหนังแกะยังมีรูขนาดเล็ก ที่กันได้แค่เชื้ออสุจิ แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคติดต่อทางเพศได้

ลาเท็กซ์ (น้ำยางธรรมชาติ) คือวัสดุที่นำมาใช้ผลิตเป็นถุงยางอนามัยมากที่สุด เพราะมีความบางและความยืดหยุ่นมากกว่าแบบแรก สวมใส่แล้วกระชับ ไม่ลื่นหลุดง่ายระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ คุณผู้ชายที่ใช้ถุงยางลาเท็กซ์แล้วรู้สึกคันหรือมีผื่นขึ้นที่เจ้าโลก ควรเข้าพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากคุณอาจมีอาการแพ้ลาเท็กซ์ก็เป็นได้

ถุงยางทำจากพลาสติก ออกแบบมาเพื่อคนที่แพ้ลาเท็กซ์ จึงมีคุณสมบัติด้านการใช้งานที่คล้ายกันมาก แต่ทางองค์การอนามัยโลกรายงานว่าถุงยางพลาสติกขาดง่ายกว่าแบบลาเท็กซ์

3. ผิวและกลิ่น

การพิจารณาเรื่องของผิวสัมผัสและกลิ่นของถุงยางอนามัยก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วยให้คุณกับสาวคนรักฟินไปด้วยกัน ซึ่งผิวของถุงยางก็มีให้เลือกหลายแบบ เช่น ผิวเรียบ ผิวขรุขระ ผิวมีปุ่ม และผิวมีวงแหวน รวมถึงแบบผสมสารหล่อลื่น ส่วนในเรื่องของกลิ่นก็มีตัวเลือกให้เยอะเช่นกัน ทั้ง กลิ่นสตรอว์เบอร์รี ช็อกโกแลต กล้วย และโคล่า เป็นต้น ซึ่งกลิ่นเหล่านี้มีไว้สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นของถุงยางแบบปกติ

4. ความหนาของถุงยาง

หนุ่ม ๆ หลายคนอาจคิดว่าการเลือกใช้ถุงยางที่มีความหนา จะช่วยป้องกันไม่ให้ถุงยางฉีกขาดระหว่างบรรเลงเพลงรัก ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีและวัสดุที่ใช้ในการผลิตถุงยางถูกพัฒนามากขึ้นเยอะ บางแบรนด์จึงผลิตถุงยางที่บางเพียง 0.01 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงแค่ให้ผิวสัมผัสที่ราวกับไม่ได้ใส่ถุงยางเท่านั้น แต่ยังมีความทนทานสูง ไม่ขาดง่ายด้วย

วันนี้ Dr.MDX คิดว่าทุกคนคงจะได้รับความรู้และเรื่องราวการจัดการกับปัญหาถุงยางอนามัยฉีกขาดกันแล้ว ไม่มากก็น้อย สิ่งสำคัญของการป้องกันปัญหาถุงยางแตกก็คือ การเลือกซื้อถุงยางอนามัยให้เหมาะสม หนุ่มๆควรอ่านฉลากให้ละเอียด เลือกขนาดที่เหมาะสมกับตัวเอง หนุ่มๆ หลายคนยังเขินอายเวลายืนอ่านฉลากถุงยางอนามัย เชื่อ Dr.MDX เถอะครับ การใช้เวลาอ่านฉลากให้ครบถ้วนและเข้าใจอย่างถ่องแท้ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย แต่กลับเป็นเรื่องที่ถูกต้องและคุณสุภาพบุรุษทุกคนควรทำครับ นอกจากนี้คุณควรจะตรวจความพร้อมของถุงยางก่อนใช้งาน การใส่ถุงยางอนามัยก็ควรระมัดระวัง ใช้หลักช้าแต่ชัวร์ รับรองว่าเกมรักของคุณนั้นจะเป็นไปได้อย่างราบรื่นและเรียบร้อยดังที่ตั้งใจไว้อย่างแน่นอนครับ

อ้างอิงข้อมูลจาก: sanook.com/men, thairath.co.th, pobpad.com, honestdocs.com, talkaboutsex.thaihealth.or.th, men.kapook.com