ผู้ชายทำงานหน้าคอมพ์ จนเจ็บข้อมือ ?

คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ในยุคปัจจุบัน บางคนเรียกได้ว่าอยู่กับคอมพิวเตอร์แทบทั้งวันเลย แต่รู้บ้างไหมว่าการนั่งอยู่ติดกับหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการผิดปกติกับร่างกายได้ แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกัน 

1. โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ

อาการของโรค : จะมีอาการปวดร้าวบริเวณข้อมือ ฝ่ามือ และนิ้วมือ บางคนอาจมีอาการชา กำแน่นๆ ไม่ได้ หยิบจับของร่วงหล่น
สาเหตุมาจากการวางมือเวลาจับเม้าท์และพิมพ์แป้นคีย์บอร์ด ด้วยความเคยชิน เรามักจะวางมือด้วยการกระดกข้อมือขึ้น เพราะฉะนั้นการใช้คอมเวลานานๆ ก็ทำให้ข้อมือเกิดการอักเสบได้

วิธีป้องกัน : ต้องปรับเปลี่ยนท่านั่ง และวางมือให้ถูกต้องด้วยการวางให้มือขนานไปกับพื้นโต๊ะ และไม่ควรใช้คอมติดต่อกันนานเกิน 1 ชั่วโมง ควรปรับเปลี่ยนอิริยาบท ทำอย่างอื่นบ้าง
ถ้าอาการยังไม่ทุเลาลง ควรพบแพทย์ เพราะบางรายอาจจะต้องทำการผ่าตัด หรือ กายภาพบำบัดด้วย

 

2. อาการปวดหลัง

หลายๆ คนคงจะมีอาการเหล่านี้ สาเหตุมาจากการนั่งเล่นคอมผิดวิธีและนั่งนานเกินไป มาดูการนั่งเล่นคอมที่ถูกวิธีกัน

  • เท้าทั้ง 2 ข้างวางแนบสนิทบนพื้น
  • ไม่ยกไหล่หรือห่อไหล่ ควรปล่อยให้สบาย
  • ไม่ควรก้มหน้ามากเกินไป ควรอยู่ในระยะ 50-70 องศา
  • ควรเปลี่ยนอิริยาบท ลุกมายืดเส้นยืดสายและพักสายตาทุกๆ 1 ชั่วโมง  
  • หลังพิงพนักพิงเก้าอี้ นั่งเต็มก้นไม่ควรนั่งครึ่งเดียว
  • ความสูงของเก้าอี้ ต้องพอดีกับโต๊ะ ไม่สูงหรือเตี้ยเกินไป

 

3. โรคเกี่ยวกับสายตา 

เวลาเรานั่งจ้องจอนานๆ หากมีอาการปวดตา เจ็บตา ตาพร่า บางคนอาจมีอาการปวดศีรษะและตาแดง นั่นแสดงว่าเราจ้องจอคอมมากเกินไป ควรพักสายตาอย่างน้อยทุกๆ 1 ชั่วโมงด้วยการหลับตา ล้างหน้าล้างตา ออกไปมองวิวธรรมชาติไกลๆ ซัก 10 นาที แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ นอกจากนี้ยังมีวิธีจัดการท่านั่งเพื่อช่วยในการกำหนดระยะจอคอม ดังนี้

  • ปรับแสงหน้าจอให้พอดี ไม่สว่างหรือมืดเกินไป
  • บริเวณในห้องควรเปิดไฟ หรือ มีแสงสว่างที่พอดี ไม่ควรใช้คอมในที่มืดเด็ดขาด
  • กระพริบตาบ่อยๆ เพื่อให้มีน้ำมาหล่อเลี้ยงตา ไม่ให้ตาแห้ง หรือ เคืองเกินไป
  • เปลี่ยนอิริยาบททันทีถ้าเริ่มรู้สึกตาพร่า ปวดตา ให้พักสายตาทันที อย่าฝืน
  • นั่งห่างจากหน้าจอประมาน 45-70 เซนติเมตร
  • ปรับขนาดตัวหนังสือในจอให้พอดี ไม่เล็กมากจนเกินไป สายตาจะได้ไม่ต้องเพ่ง และไม่ต้องเอาหน้าชิดติดจอด้วย

หากมีอาการปวดตา ตาพร่า ควรไปตรวจวัดสายตาด้วย อาจจะทำให้สายตาเราเปลี่ยนค่า ก็จำเป็นต้องใส่แว่นในการทำงาน แต่ถ้าใส่แว่นแล้วยังมีอาการแบบเดิมอยู่ ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยต่อไป

 

4. อาการปวดหัว

อาการปวดหัวเกิดขึ้นได้บ่อยๆ สำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์นานๆ สาเหตุหลักๆ น่าจะมาจากการใช้สายตาที่มากเกินไป จนทำให้ปวดตาแล้วลามมาปวดหัว นอกจากนี้ บางทีอาจจะมาจากการทำงานที่เครียดจนเกินไป ก็ทำให้มีอาการปวดหัวได้ ทางที่ดี ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ใช้คอมพิวเตอร์นานเกิน 1 ชั่วโมง ไม่เครียด 

 

5. โรคนอนไม่หลับ

การใช้คอมพิวเตอร์นานๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นอนไม่หลับ ซึ่งหลายคนอาจจะเป็นอยู่แต่ไม่รู้ตัว มีการวิจัยออกมาว่า แสงสว่างจากหน้าจอคอมมีผลต่อการนอนไม่หลับ ซึ่งแสงจะไปทำลายจำนวนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการนอนหลับของมนุษย์ นอกจากนี้การเล่นคอมยังเป็นการทำให้ร่างกายตื่นตัว ซึ่งหากเล่นผิดเวลา นาฬิกาชีวิตก็จะเปลี่ยนไปหมด ซึ่งทำให้เช้าๆ เราไม่มีแรงที่จะทำงาน หน้าโทรม แก่ก่อนวัย วิธีแก้ก็ง่ายๆ ไม่เล่นคอมจนถึงเวลาดึก ก่อนนอนอาจจะหาหนังสือซักเล่มมาอ่าน รับรองว่า หลับง่ายกว่าเดิม

 


นอกจากจะมองจอคอมแล้ว พวกสมาร์ทโฟน ก็ไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นควรให้ความสำคัญกับร่างกายมากกว่าสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดีกว่า เพื่อร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยในอนาคตด้วย 

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก www.dekdee.com
ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เนต