รู้รอบด้านเรื่องประโยชน์และโทษของคาเฟอีน

หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวของคาเฟอีนกันมาบ้างไม่มากก็น้อย สารเคมีที่มีอยู่ในอาหารและเครื่องดื่มชนิดนี้ทำให้ใครหลายๆ คน กระปรี้กระเปร่า และเริ่มเช้าวันใหม่ได้อย่างราบรื่น บางคนหากไม่ได้ทานเครื่องดื่มที่คาเฟอีน อย่างเช่น กาแฟ หรือชา อาจต้องหงุดหงิด งัวเงียไปทั้งวัน แท้จริงแล้วคาเฟอีนมีผลอย่างไรกับร่างกายของเรากันแน่ ที่สำคัญ Dr.MDX จะพาทุกท่านไปพบกับประโยชน์และโทษของคาเฟอีนกัน

คาเฟอีน เป็นสารแซนทีนอัลคาลอยด์ พบได้ในอาหารเช่น กาแฟ, ชา, โคล่า คาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายเกิดความตื่นตัวและลดความง่วงได้ นอกจาก กาแฟ, ชา, โคล่า แล้ว ในเครื่องดื่มชูกำลังก็เป็นอาหารที่มีคาเฟอีนอยู่มากอีกด้วย

ประโยชน์ของคาเฟอีน

1. ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น

คาเฟอีนช่วยให้สารสื่อประสาทอย่าง โดปามีนและนอร์อิพิเนฟรินเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้สมองทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการศึกษาจึงพบว่า คาเฟอีนอาจทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองดีขึ้นในหลายๆ ด้าน เช่น อารมณ์ ความจำ การตอบสนอง ความระมัดระวัง ระดับพลังงาน และกระบวนการคิดทั่วไป เป็นต้น

2. ช่วยให้สมรรถภาพร่างกาย และระบบเผาผลาญดีขึ้น

คาเฟอีนช่วยเพิ่มระดับอะดรีนาลีน ซึ่งมีฤทธิ์ให้ร่างกายพร้อมสำหรับการออกกำลังกาย คาเฟอีนยังช่วยสลายไขมันได้ดี คาเฟอีนยังอาจช่วยเพิ่มความทนทานและอาจช่วยให้เหนื่อยช้าลง นอกจากนี้คาเฟอีนยังช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย ทั้งในคนอ้วนและคนปกติได้อีกด้วย

3. ลดอาการปวดภายในร่างกาย

การใช้คาเฟอีนร่วมกับยาแก้ปวดอาจช่วยลดอาการปวดได้ และอาจใช้คาเฟอีนลดอาการปวดหัว เช่น อาการปวดหัวไมเกรนและปวดหัวจากความเครียด แพทย์อาจให้ผู้ป่วยบริโภคหรือฉีดคาเฟอีนเข้าเส้นเลือด เพื่อป้องกันอาการปวดหัวหลังเข้ารับการผ่าตัด รวมทั้งป้องกันอาการปวดหัวหลังฉีดยาชาเข้าทางช่องเหนือไขสันหลัง

4. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี

การบริโภคคาเฟอีนวันละ 400 มิลลิกรัม อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ และยังมีการศึกษาพบว่า คาเฟอีนอาจมีส่วนช่วยกระตุ้นการหดตัวของถุงน้ำดีและการไหลเวียนของน้ำดี ซึ่งอาจช่วยลดการเกิดนิ่วได้อีกด้วย

5. ป้องกันโรคเบาหวาน

มีการวิจัยที่พบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 1 แก้ว อาจเสี่ยงเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ลดลง 7% หากดื่มกาแฟมากขึ้นก็อาจทำให้ความเสี่ยงลดลงไปอีก อย่างไรก็ตามการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนควรเป็นแบบไม่เติมน้ำตาล และไม่บริโภคคาเฟอีนมากเกินปริมาณสูงสุดที่กำหนดต่อวัน

6. ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน

ไม่เพียงแต่คาเฟอีนจะช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสันได้อีกด้วย โดยโรคทั้ง 2 ชนิดนี้มีสาเหตุมาจากความผิดปกติในการทำงานของสมอง อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาไม่พบว่าการบริโภคคาเฟอีนจะทำให้ความเสี่ยงต่อโรคพาร์กินสันลดลงได้ในผู้ที่สูบบุหรี่

7. ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด

คาเฟอีนมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและอาจช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้ โดยมีงานวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟวันละ 3-4 แก้วอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่ากาแฟอาจลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลายชนิด ได้แก่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งผิวหนัง และมะเร็งตับ

ผลข้างเคียงจากการบริโภคคาเฟอีน

ถึงแม้ว่าคาเฟอีนจะมีส่วนช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ช่วยเพิ่มการทำงานของสมองให้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม หากเราบริโภคคาเฟอีนเกินความจำเป็น ก็อาจจะเกิดผลเสียเหล่านี้ขึ้นมาได้

นอนไม่หลับ

คาเฟอีนนั้นมีประโยชน์เรื่องช่วยให้ตื่นตัว ไม่ง่วงนอน แต่หากคุณบริโภคมากเกินไปอาจทำให้นอนไม่หลับ มีการศึกษาพบว่า หากได้รับคาเฟอีนมากเกินไป อาจต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าจะนอนหลับ และยังอาจทำให้ระยะเวลาและคุณภาพการนอนลดลงได้อีกด้วย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ

วิตกกังวล

มีการศึกษาพบว่า การบริโภคคาเฟอีนเกินวันละ 1,000 มิลลิกรัม อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลหรือความกระวนกระวายใจ ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากความปกติในสมอง ซึ่งอาจเกิดผลกระทบแตกต่างกันไปตามแต่ละคน

เกิดความเมื่อยล้า

คาเฟอีนนั้นช่วยให้เรามีพละกำลังเพิ่มขึ้น แต่หลังจากหมดฤทธิ์คาเฟอีนแล้วอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าได้ นอกจากนี้หากบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมน้อยลงจนเกิดภาวะกระดูกพรุน หรืออาจทำให้อัตราเมตาบอลิซึมสูงเกินไปจนเกิดอาการกล้ามเนื้อเกร็งได้อีกด้วย

ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น

คาเฟอีน มีผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นชั่วคราวหากคุณบริโภคมากเกินไป อาจทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นจนอาจเกิดความผิดปกติ นอกจากนี้การบริโภคคาเฟอีนในบริมาณมากเกินไปอาจอันตรายสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองได้

ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายมีปัญหา

คาเฟอีนทำให้กรดในกระเพาะอาหารมีปริมาณเพิ่มขึ้น อาจทำให้มีอาการแสบร้อนกลางอกหรือมีอาการกรดไหลย้อนได้ และหากได้รับคาเฟอีนมากเกินไป อาจทำให้ถ่ายเหลวเหลวหรือท้องเสียได้ นอกจากนี้ การที่ร่างกายขับคาเฟอีนส่วนเกินออกมาทางปัสสาวะ อาจทำให้ปัสสาวะมากและบ่อยขึ้น

จะเห็นว่า คาเฟอีน นั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อยู่ไม่น้อย ทั้งการช่วยเรื่องการทำงานของสมอง ช่วยป้องกันโรคและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามหากคุณบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป ก็จะเกิดผลเสีย หรือเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้

และจะบริโภคคาเฟอีนอย่างไรจึงจะปลอดภัย คำถามนี้คงเป็นคำถามทิ้งท้ายที่ใครหลายๆ คนคงอยากถาม สำหรับคนปกตินั้น ไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกินวันละ 400 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับการดื่มกาแฟประมาณ 4 แก้ว เครื่องดื่มชูกำลัง 2 ขวด หรือโคล่าประมาณ 10 กระป๋อง

สิ่งที่ควรระวังถัดมาคือ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนบางประเภทมีน้ำตาลรวมอยู่ด้วย หากคุณบริโภคโดยไม่คำนึงถึงปริมาณน้ำตาลที่ได้รับ ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน ทางที่ดีหากจำเป็นต้องบริโภคคาเฟอีน เช่น ในชา กาแฟ ควรดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาลจะดีที่สุด

รู้อย่างนี้แล้ว คอกาแฟก็ดื่มอย่างมีความสุขแล้วใช่ไหมล่ะ!!!

ที่มา : Pobpad.com, wikipedia.org, honestdocs.co