รู้เท่าทันป้องกันเบาหวาน เพื่อห่างไกลอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

จากที่ Dr.MDX เคยนำเสนอไปแล้วในบทความที่ว่า เบาหวานนั้นส่งผลต่อการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ คุณผู้ชายที่เป็นโรคเบาหวานมีโอกาสนกเขาไม่ขันค่อนข้างสูง ดังนั้น Dr.MDX จึงอยากให้หนุ่มๆ ทุกท่านรู้เท่าทันโรค และรู้วิธีป้องกันโรคเบาหวานไว้ก่อนแต่เนิ่นๆ เพราะการห่างไกลจากโรคเบาหวานนั้น เป็นหนทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

โรคเบาหวานเป็นโรคที่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมีโอกาสพบอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้มากกว่าคนที่ไม่เป็นเบาหวานที่มีอายุเท่าๆ กัน และสามารถพบได้แม้ว่าอายุยังน้อย

สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่ได้รับการวินิจฉัยมาประมาณ 10 ปี มีโอกาสเกิดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ 50-70% ซึ่งอายุเป็นตัวแปรที่สำคัญในการเกิดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ทั้งในคนที่เป็นและไม่เป็นเบาหวาน คนที่อายุ 20-29 ปี พบอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศถึง 9% และอายุมากกว่า 70 ปี พบได้ถึง 95%

นอกจากนี้หากเป็นโรคเบาหวานมานานจะมีโอกาสเกิดได้มากขึ้น โดยผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป และเป็นโรคเบาหวาน มีโอกาสเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ได้ถึง 8-50% เมื่อเทียบกับคนทั่วไปที่พบได้เพียง 2% เท่านั้น

คุณเป็นเบาหวานหรือไม่

การตรวจสอบว่าเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ ทำได้โดยการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย และได้ผล การวินิจฉัยโรคเบาหวานนั้นพิจารณาจากเกณฑ์ดังนี้

–  มีระดับน้ำตาลในเลือดขณะงดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 8 ชั่วโมง มากกว่าหรือเท่ากับ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

–  มีอาการของโรคเบาหวาน ร่วมกับระดับน้ำตาลในเลือดเวลาใดก็ตามมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

–  มีระดับน้ำตาลในเลือด มากกว่าหรือเท่ากับ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร 2 ชั่วโมง ภายหลังทดสอบความทนต่อน้ำตาลกลูโคส 75 กรัมที่รับประทานเข้าไป

–  มีระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม (HbA1c) มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 6.5 ขึ้นไป

ผู้ที่มีอาการดังกล่าวมานั้น หากไม่รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และยังปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ยิ่งหากคุณมีภาวะน้ำหนักเกิน ไขมันสูงและความดันโลหิตสูง ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อโครงสร้างของรางกาย และการทำงานของหลอดเลือดทำให้ อวัยวะต่าง ค่อยๆ เสื่อมลง

สัญญาณบอกเหตุ ของคนเป็นเบาหวาน

เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง คุณอาจมีอาการดังต่อไปนี้

–  ปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวันและกลางคืน

–  กระหายน้ำ เนื่องจากสูญเสียน้ำมากจากการปัสสาวะ

–  อ่อนเพลีย และน้ำหนักลดเนื่องจากร่างกายนำน้ำตาลไปใช้ไม่ได้

–  หิวบ่อย รับประทานอาหารมากขึ้น

–  คันตามตัว เป็นแผล ติดเชื้อได้ง่าย เป็นเชื้อรา ตกขาวบ่อย

–  ตาพร่า เห็นภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน

–  ขาชาอันเนื่องมาจากปลายประสาทเสื่อม

สำหรับคุณผู้ชายท่านใด ที่มีอาการอย่างที่กล่าวมา สิ่งที่ต้องทำคือไปพบแพทยืเพื่อตรวจสุขภาพ หรือตรวจหาสาเหตุของอาการดังกล่าว กาดแพทย์ระบุว่าเป็นโรคเบาหวาน ก็ควรรักษาตามอาการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

คุณใช่ไหม!!! ที่เสี่ยงเป็นเบาหวาน

–  อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป

–  มีประวัติครอบครัวโรคเบาหวาน

–  เป็นผู้มีน้ำหนักเกิน หรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 25

–  มีความดันโลหิต หรือมีน้ำตาลในเลือดสูง (เป็นโรคใดโรคหนึ่ง ความเสี่ยงต่ออีกโรคก็เพิ่มขึ้น) มีระดับไขมันในเลือดสูง

–  สตรีที่มีประวัติเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือน้ำหนักบุตรแรกคลอดมากกว่า 4 กก.

–  ไม่ออกกำลังกาย

–  ดื่มสุรา และสูบบุหรี่

หากคุณเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น คุณคือผู้ที่เข้าข่ายเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน เพราะฉะนั้นควรเฝ้าระวังอาการเป็นพิเศษ ปรับเปลี่ยนอุปนิสัยทั้งการทำงาน การพักผ่อน การกินอาหาร ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานที่อาจจะเกิดกับคุณได้ทุกเมื่อ

เป็นเบาหวานรักษาอย่างไร

หากโรคยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ก็สามารถอาศัยการควบคุมอาหาร ลดน้ำหนัก และออกกำลังกายได้ แต่ถ้าเป็นมากขึ้นก็ต้องรับประทานยาควบคู่กันไป หากใช้ยาเม็ดแล้วไม่ได้ผลก็ต้องฉีดอินซูลินเช่นเดียวกับผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่หนึ่ง ซึ่งจำเป็นต้องเรียนรู้การฉีดอินซูลินด้วยตนเอง เพราะต้องฉีดเองที่บ้านเป็นประจำทุกวัน

เป้าหมายในการรักษาโรคเบาหวานนั้นอยู่ที่การควบคุมน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต ไขมันในเลือด และน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความมีระเบียบวินัยของผู้ป่วยเองด้วย หากคุณควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ก็จะทำให้ห่างไกลจากภาวะโรคแทรกซ้อน และอาการเบาหวานก็จะทรงตัว ทำให้คุณนั้นมีสุขภาพที่แข็งแรงและอายุที่ยืนยาวได้

อยู่กับเบาหวานอย่างไรให้มีความสุข

กุญแจสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควบคุมและอยู่กับโรคได้อย่างมีความสุข ได้แก่ การควบคุมเรื่องการรับประทานอาหาร และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งเรามีคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

–  เลือกรับประทานอาหารจำพวกแป้งจากธัญพืชที่ไม่ขัดสี ในปริมาณที่พอเหมาะ

–  พยายามงดอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นหวาน มัน หรือเค็ม

–  รับประทานผัก และผลไม้ที่ไม่หวานจัดเพื่อเพิ่มกากใยอาหาร

–  ควบคุมน้ำหนัก

–  งดสูบบุหรี่ และงดดื่มสุรา

–  ออกกำลังกายเป็นประจำในแบบแอโรบิควันละ30 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ตามคำแนะนำของแพทย์

–  รับประทานยาเพื่อควบคุมความดันโลหิต หรือเบาหวานตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

–  ระวังอย่ารับประทานยาใด เองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะยากลุ่มที่เป็นสเตียรอยด์ ยาฮอร์โมน หมั่นศึกษาหาความรู้ในการดูแลตนเอง

–  ทำจิตใจให้สงบ และผ่อนคลายความเครียด ไม่โกรธ หรือโมโหง่าย

คุณสุภาพบุรุษคงเห็นแล้วว่า โรคเบาหวานถึงแม้ว่าจะเป็นโรคที่ร้ายแรง และสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย แต่เบาหวานก็ยังมีแนวทางป้องกันและรักษา นอกจากนี้ยังมีวิธีที่จะอยู่กับโรคโดยเพียงแค่เรามีระเบียบวินัย และไม่เครียด

แต่เหนือสิ่งอื่นใด การป้องกันไม่ให้เกิดโรค ก็ดีกว่าการรักษาหลังจากเกิดโรคแล้ว เพราะฉะนั้นหนุ่มๆ ควรดูแลร่างกาย และจิตใจให้แข็งแรง เช่น การออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มสุรา และสูบบุหรี่ เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และถุกสุขลักษณะ นอกจากนี้การทำจิตใจให้แจ่มใส และไม่เครียดก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้คุณห่างไกลจากโรคเบาหวาน และที่สำคัญคือการห่างไกลจากอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศที่หนุ่มๆ วิตกกังวลได้

ที่มา bumrungrad.com, mdxmen.com, med.cmu.ac.th