รอยสัก ดูแลอย่างไรให้สวยทนนาน

เทรนด์การสักบนส่วนต่างๆ ของร่างกายได้รับความนิยมกันมานานเนิ่นนานหลายยุคหลายสมัย     ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปในอดีตคนโบราณได้ใช้รอยสักเป็นเครื่องบ่งบอกฐานะทางสังคมของตัวผู้มีรอยสักนั่นเอง แต่สำหรับในปัจจุบัน การสักเป็นเรื่องของความสวยงามและความชอบส่วนบุคคล โดยเฉพาะในผู้ชายอย่างเราๆ นั้น หลายคนคงเคยคิดที่อยากจะมีรอยสักสวยๆ เท่ๆ เป็นของตัวเองกันมาบ้าง เพราะนอกจากความสวยงามของลวดลายแล้ว รอยสักยังสามารถแสดงถึงตัวตนของเจ้าของได้เป็นอย่างดี ผ่านลายเส้นที่ถูกสร้างสรรค์อย่างประณีตและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งลวดลายเหล่านั้นจะติดตัวเจ้าของไปตลอดชั่วชีวิต และนอกเหนือจากการเลือกรอยสักให้เหมาะสมสวยงามดูมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ขั้นตอนการดูแลรักษาให้รอยสักมีสีสันที่สด ชัด และคงทนก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามไปเช่นกัน ดังนั้น วันนี้ Dr.MDX จึงได้นำเคล็ดลับดีๆ ในการดูแลรอยสักใหม่อย่างถูกต้อง ด้วยวิธีการง่ายๆ 7 ขั้นตอนมาฝากเพื่อนๆ ที่คิดอยากจะมีรอยสักเท่ๆ บนร่างกายกันครับ

1. หลังจากที่สักมาแล้ว ส่วนใหญ่ร้านสักก็จะใช้ผ้าหรือแผ่นฟิล์มใสที่ถูกหลักอนามัยปิดรอยสักใหม่ไว้เพื่อซับเลือดและหมึกบางส่วนที่ไม่ได้ซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนัง ซึ่งอย่างน้อยภายในชั่วโมงถึงสามชั่วโมงแรกนั้น ก็ไม่ควรที่จะไปแกะมันออกเพราะไม่อย่างนั้นเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่อาจเปื้อนรอยหมึกและรอยเลือดได้ ที่สำคัญรอยสักใหม่ไม่ควรที่จะถูกเปิดเผยออกมาจนกว่าจะถึงเวลาทำความสะอาด

2. ควรทำความสะอาดรอยสักทุกๆ วันด้วยสบู่ที่อ่อนโยนกับผิวหนังบอบบาง ปราศจากส่วนผสมของน้ำหอม และต้องสามารถฆ่าเชื้อได้ เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อของรอยสัก ซึ่งอย่าลืมว่ารอยสักใหม่ๆนี้ก็คือแผลเปิดดีๆ นี่เอง โดยควรทำความสะอาดต่อเนื่องติดต่อกันไปเป็นระยะเวลา 2 – 3 สัปดาห์จนรอยสักหายจากการเป็นแผล และที่สำคัญคือควรหลีกเลี่ยงการใช้มือไปจับสัมผัสรอยสักในระยะนี้กันด้วยนะครับ

3. ในช่วง 2 – 3 วันแรกภายหลังจากที่ทำความสะอาดแผลรอยสักเรียบร้อยแล้ว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทขี้ผึ้งสำหรับทาผิวหนังเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นไว้ โดยทาบางๆ ไม่ต้องพอกให้หนาจนเกินไป เพื่อช่วยรักษาแผลรอยสักให้หายได้เร็วขึ้น

4. เมื่อผ่าน 2 – 3 วันแรกไปแล้ว ให้เปลี่ยนจากขี้ผึ้งมาเป็นโลชั่นที่ไม่มีกลิ่นหรือส่วนผสมของน้ำหอมทาภายหลังจากการทำความสะอาดรอยสัก หรืออาจจะใช้โลชั่นสำหรับรอยสักโดยเฉพาะที่มีวางจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดก็ได้

5. ในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์แรกภายหลังจากที่เพิ่งทำการสักมา ไม่ควรที่จะสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป เพราะขณะที่รอยสักกำลังจะหายไปนั้นจะเกิดการตกสะเก็ดเหมือนกับแผลสดทั่วไป ซึ่งหากว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่ไปถูหรือเสียดสีกับสะเก็ดจนหลุดออกมา ก็จะทำให้หมึกรอยสักมีโอกาสที่จะจางลงหรือหายไปได้สูง นอกจากนี้ในเวลานอนก็ควรหลีกเลี่ยงการนอนหลับทับรอยสักด้วยเช่นกัน

6. กิจกรรมที่ควรละเว้นในขณะที่แผลรอยสักยังไม่หายดีก็คือ การทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องแช่อยู่ในน้ำนานๆ เช่น การไปว่ายน้ำ การแช่บ่อน้ำร้อน รวมถึงการอาบน้ำที่ไม่ควรอาบน้ำนานจนเกินไป และน้ำต้องไม่ร้อนจัดจนเกินไปอีกด้วย นอกจากการแช่น้ำนานๆ แล้วรอยสักใหม่ยังควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด และการออกกำลังกายที่ทำให้มีเหงื่อออกมากๆก็เช่นกัน

7. ในระหว่างที่รอยสักยังไม่หายดีนั้น ถ้ามีอาการคันก็ต้องห้ามเกาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้สีหมึกที่สักไว้เกิดจางหรือหลุดออกมาได้

การดูแลรักษารอยสักโดยเฉพาะอย่างยิ่งรอยสักใหม่ในช่วงแรกๆ นั้น อาจจะฟังดูค่อนข้างจู้จี้จุกจิก และต้องใช้ความอดทนในระดับนึงกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่รอยสักนั้นเริ่มตกสะเก็ด ก็จะมีอาการคันยุบยิบอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีและใส่ใจในทุกขั้นตอน จึงถือเป็นความรับผิดชอบส่วนตัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะต้องไม่ลืมว่ารอยสักนั้นคือสิ่งที่จะอยู่ติดตัวผู้สักไปตลอดชั่วชีวิต และสำหรับใครที่กำลังคิดจะไปสัก ก็ลองพิจารณากันดูให้ดีด้วยนะครับว่าตนเองพร้อมที่จะดูแลรอยสักนั้นไปตลอดชีวิตหรือไม่..จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกันทีหลัง

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. บทความเรื่อง “ดูแลรอยสักใหม่อย่างถูกต้อง ด้วยวิธีง่ายๆ 7 ขั้นตอน!”  จากเพจ Blue Cat Tattoo Supply
  2. บทความเรื่อง “5 วิธีการดูแลรอยสักหลังสักเสร็จ เพื่อให้รอยสักของคุณออกมา “ดูดี” ที่สุด”