หลายคนคงคุ้นเคยกับวัยทองของผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน แต่รู้หรือไม่ว่า เมื่อผู้ชายมีอายุมากขึ้น ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนเพศน้อยลงและเป็นเหตุให้เกิดวัยทองผู้ชายได้เช่นกัน แต่ผู้ชายอย่างเราจะสังเกตอาการและรับมือเมื่อย่างเข้าสู่วัยทองได้อย่างไรบ้าง… ตาม Dr.MDX ไปดูกันเลยครับ
วัยทองของผู้ชายนั้น เป็นภาวะที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือแอนโดรเจนที่ลดต่ำลง ฮอร์โมนเหล่านี้เป็นฮอร์โมนเพศชายที่ถูกผลิตจากลูกอัณฑะ ทำหน้าที่เกี่ยวกับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก เสียงที่ทุ้มหรือต่ำลง รวมถึงแรงขับทางเพศด้วย ซึ่งจะมีการผลิตฮอร์โมนดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นในช่วงวัยรุ่น และลดต่ำลงเมื่อแก่ตัวลง ทั้งนี้ การผลิตฮอร์โมนนี้จะค่อยๆ ลดลงประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเมื่อย่างเข้าสู่อายุ 30 ปีเป็นต้นไป โดยวัยทองของผู้ชายอาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงอายุ 45-50 ปี และอาจมีอาการมากขึ้นในช่วงอายุ 70 ปีขึ้นไป
นอกจากปัจจัยทางด้านอายุที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเพศชายแล้ว ยังมีปัจจัยด้านอื่นๆ ที่อาจส่งผลให้ระดับเทสโทสเตอโรนลดลงอย่างรวดเร็วกว่าปกติจนนำไปสู่ภาวะวัยทองของผู้ชายได้ เช่น
- กรรมพันธุ์
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด
- พฤติกรรมบางอย่าง เช่น การทำงานหนัก การพักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก การสูบบุหรี่ การขาดการออกกำลังกาย หรือการออกกำลังกายอย่างหักโหมมากจนเกินไป เป็นต้น
- ปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไตวาย ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นต้น
วัยทองของผู้ชายแตกต่างจากวัยทองของผู้หญิงอย่างไร ?
วัยทองของผู้ชายนั้นมีความแตกต่างจากวัยทองของผู้หญิง คือ วัยทองของผู้หญิงนั้นเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน รังไข่ของผู้หญิงจะหยุดสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนและไม่มีการตกไข่เกิดขึ้น ซึ่งแตกต่างจากวัยทองของผู้ชาย เพราะเมื่อมีอายุมากขึ้น การผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนของลูกอัณฑะจะค่อยๆ ลดลง และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและอารมณ์ แต่ก็ยังคงมีการผลิตฮอร์โมนดังกล่าวอยู่ แม้ว่าจะลดปริมาณการผลิตฮอร์โมนเพศลงก็ตาม แต่หากผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป มีการดูแลรักษาสุขภาพที่ดี ร่างกายก็จะยังสามารถผลิตสเปิร์มได้ต่อไป!!!
ดังนั้น ผู้ชายวัยทองจึงเป็นวัยที่อาจจะต้องให้ความสำคัญในการดูแลเอาใจใส่ตัวเองให้มากขึ้น การหาอาหารเสริมหรือสมุนไพรมารับประทานก็อาจจะเป็นสิ่งที่จำเป็น อย่างเช่นการรับประทานสมุนไพร “ถั่งเช่า” ที่มีคุณสมบัติหลายด้านในเรื่องของการดูแลสุขภาพ และมีสรรพคุณทางยาแผนโบราณที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในตำราแพทย์ของจีนมาช้านาน เพราะถั่งเช่าสามารถช่วยเพิ่มปริมาณของสเปิร์มในอสุจิได้ ซึ่งจากการศึกษาในผู้ชาย 22 คน พบว่า เมื่อใช้ถั่งเช่าเป็นอาหารเสริม ปริมาณของสเปิร์มในอสุจิเพิ่มขึ้น 33% อีกทั้งยังลดปริมาณสเปิร์มที่มีความผิดปกติลงได้ถึง 29% และเมื่อศึกษาเพิ่มเติมก็พบว่า ถั่งเช่าสามารถช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศได้ถึง 66-86% อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการปกป้องและเสริมสร้างการทำงานของต่อมหมวกไต และยังช่วยเพิ่มโอกาสที่สเปิร์มจะปฏิสนธิได้ถึง 300% แต่ทั้งนี้ก็อาจจะต้องระมัดระวังในการใช้สักหน่อยนะครับ โดยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนนำมาใช้รักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้ครับ
ข้อมูลอ้างอิง
- บทความเรื่อง “วัยทองผู้ชายเป็นอย่างไร?”
- บทความเรื่อง “ถั่งเช่า สรรพคุณสุดอัศจรรย์ แก้นกเขาไม่ขัน ขุมพลังแห่งการต้านมะเร็ง”