สาเหตุที่คนมักป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้น มีทั้งเกิดจากกรรมพันธุ์และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งถ้าหากป่วยเป็นโรคนี้แล้ว ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหาร รวมไปถึงอาจจะต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตในหลายๆ ด้าน ซึ่งในบางรายอาจจะต้องรับประทานยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยถ้าหากผู้ป่วยสามารถควบคุมน้ำตาลได้ดีอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตที่เป็นปกติสุขและยืนยาวเท่ากับคนปกติทั่วไป แต่เนื่องจากโรคเบาหวานนั้นมีธรรมชาติที่แปลกไปจากโรคทั่วๆ ไปนั่นก็คือ เป็นโรคที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่รู้สึกสุขสบาย ไม่รู้สึกว่ามีอาการผิดปกติแต่อย่างใด ต่างจากการเป็นไข้หวัด ที่มีอาการไข้ เป็นหวัด ไอ จาม หรือ การเป็นไส้ติ่งอักเสบ ที่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ทำให้จะต้องรีบไปตรวจเพื่อรับการรักษาพยาบาลทันทีทันใด และด้วยธรรมชาติของโรคเบาหวานที่แตกต่างจากโรคทั่วไปนี่เอง จึงจัดได้ว่าโรคเบาหวานเป็นโรคภัยเงียบหรือเพชฌฆาตมืด (Silent Killer)
โรคเบาหวานคืออะไร ?
อาหารส่วนใหญ่ที่รับประทานกันเข้าไปนั้น จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือด เพื่อใช้เป็นพลังงานเซลล์ในตับอ่อนที่ชื่อว่า เบต้าเซลล์ ที่เป็นตัวสร้างอินซูลิน ซึ่งอินซูลินจะเป็นตัวนำน้ำตาลกลูโคสเข้าเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย เพื่อเผาผลาญให้เป็นพลังงานในการดำเนินชีวิต โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ซึ่งเกิดจากเซลล์ในตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้อย่างเพียงพอ หรือร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยกว่าปกติ จึงไม่สามารถเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต รวมถึงโปรตีนและไขมันบางส่วนได้อย่างเหมาะสม ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดไม่ถูกนำไปใช้ จึงเกิดการคั่งค้างในกระแสเลือดและอวัยวะต่างๆ และเมื่อน้ำตาลคั่งค้างในกระแสเลือดมากๆ เข้า ก็จะถูกไตกรองออกมาเป็นปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะหวานหรือมีมดขึ้นได้ จึงเรียกว่าเบาหวาน ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้มักจะมีอาการปัสสาวะบ่อยๆ และมาก ร่างกายจึงต้องเผาผลาญพลังงานจากกล้ามเนื้อและไขมันแทน ทำให้ร่างกายผ่ายผอม ไม่มีไขมัน กล้ามเนื้อฝ่อลีบ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง
โรคแทรกซ้อนของเบาหวานมีอะไรบ้าง ?
- ตาอาจเป็นต้อกระจกก่อนวัย ประสาทตาหรือจอตาเสื่อมและอาจทำให้ตาบอดในที่สุด
- ระบบประสาทผู้ป่วยอาจเป็นปลายประสาทอักเสบมีอาการชาหรือปวดแสบปวดร้อนตามปลายมือปลายเท้า ซึ่งมักจะทำให้มีแผลเกิดขึ้นที่เท้าได้ง่าย และอาจลุกลามจนทำให้เท้าเน่า กระเพาะปัสสาวะ กระเพาะอาหารไม่ทำงาน มีอาการจุกเสียด อาการไม่ย่อย ท้องผูกท้องเดิน หรือมีอาการท้องเดินตอนกลางคืน ผู้ป่วยชายมักมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- ไตมักเกิดภาวะไตวาย มีอาการบวม ซีด ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบได้ค่อนข้างบ่อย
- ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งและตีบทำให้เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของผู้ป่วยเบาหวาน ถ้าหลอดเลือดแดงที่เท้าแข็งและตีบ เลือดไปเลี้ยงที่เท้าไม่เพียงพอ อาจจะทำให้เท้าเย็นจนเป็นตะคริว หรือปวดขณะเดินมากๆ หรืออาจทำให้เป็นแผลที่หายยาก หรือนิ้วเท้าเป็นเนื้อตายได้
- แผลที่เท้าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย ทั้งนี้ ก็เนื่องมาจากการที่ผู้ป่วยเบาหวานนั้น มักมีภาวะปลายประสาทอักเสบและภาวะขาดเลือด ทำให้เท้าชา เกิดแผลได้ง่ายและหายยาก หรือเป็นเนื้อตายเน่า ในบางครั้งจำเป็นจะต้องตัดนิ้วเท้าหรือตัดเท้า ซึ่งทำให้เกิดภาวะพิการได้
ดังนั้น การจะดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคเบาหวาน หรือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้นั้น นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญแล้ว ยังมีสมุนไพรที่มีงานวิจัยสนับสนุนว่าสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างเช่น สมุนไพร “ถั่งเช่า” หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่าหญ้าหนอน ซึ่งเป็นสมุนไพรในแถบประเทศทิเบตและจีนมานานนับพันปีตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 เพราะเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในด้านการบำรุงร่างกายมากมายหลายด้าน จนได้ชื่อว่าเป็น “ราชาแห่งสมุนไพร” และหนึ่งในสรรพคุณเด่นๆก็คือ สรรพคุณในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เพราะถั่งเช่ามีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ทางยา เช่น สารคอร์ไดเซปิน (Cordycepin) สารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) เบต้ากลูแคน (Beta Glucan) ฯลฯ ที่ช่วยให้การเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายนั้นดีขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้นั่นเองครับ // Dr.MDX
ข้อมูลอ้างอิง