“ถั่งเช่า” เป็นสมุนไพรจีนที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนานด้วยสรรพคุณบำรุงร่างกาย เสริมสมรรถภาพทางเพศ และต้านโรคร้ายต่างๆ มากมาย โดยพบในเขตภูเขาสูงแถบเทือกเขาหิมาลัย ที่ราบสูงทิเบตและจีน ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีอยู่หลากหลายชนิดและยังมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละภูมิภาค
การบริโภคถั่งเช่าเพื่อประโยชน์ด้านการแพทย์นั้นมีมานานตั้งแต่อดีต เนื่องจากถั่งเช่านั้นอุดมไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพซึ่งส่งผลดีต่อร่างกาย โดยเชื่อกันว่าช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย รักษาโรคไตและตับ เสริมสมรรถภาพของเพศชาย ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยเพิ่มการทำงานของตับในผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบี รักษาความผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ เพิ่มกำลังและความแข็งแรงของร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการไอ บำบัดอาการของผู้ป่วยที่ติดยาเสพติดในกลุ่มสารแอลคาลอยด์ อาการเวียนศีรษะ เป็นต้น ด้วยสรรพคุณที่มีอยู่หลากหลายของถั่งเช่า จึงทำให้ได้รับฉายาว่าเป็นยอดสมุนไพรจีนที่หลายๆ คนสรรหามาบำรุงร่างกาย และยังเป็นสมุนไพรจีนที่มีราคาสูงอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเลือกบริโภคถั่งเช่าเพื่อรักษาโรคใดๆ ตามคำกล่าวอ้าง ควรศึกษาข้อมูลทางการแพทย์และคำแนะนำในการใช้ถั่งเช่าอย่างปลอดภัยให้ดีเสียก่อน
สมุนไพรชนิดนี้เกิดมาจากสปอร์เห็ดราที่ไปเจริญเติบโตบนตัวอ่อนหนอนผีเสื้อ (Cordyceps Sinensis) ซึ่งจำศีลอยู่ใต้ดินในฤดูหนาว แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนจึงทำให้สปอร์เห็ดเติบโตขึ้นโดยดูดสารอาหารจากตัวอ่อนหนอน และงอกขึ้นบริเวณส่วนหัวของตัวหนอน ดังนั้น ถั่งเช่าจึงมีส่วนประกอบด้วยกันอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นตัวอ่อนของผีเสื้อและอีกส่วนเป็นสปอร์เห็ด ซึ่งในท้องตลาดมีถั่งเช่าหลากหลายระดับคุณภาพมาก โดยตามภูมิปัญญาของชาวจีนนั้น มีการจัดคุณภาพของถั่งเช่าเป็น 3 ระดับด้วยกัน และระดับที่ดีที่สุดก็คือ ความยาวของตัวเห็ดจะต้องเท่ากับความยาวของตัวหนอน ประมาณ 3-4 เซนติเมตร ยิ่งในปัจจุบันนี้มีการเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าสีทองซึ่งเป็นเห็ดสกุลเดียวกับถั่งเช่า (Cordyceps) แต่เป็นคนละชนิด (Species) กัน และมีการกล่าวอ้างว่ามีคุณภาพดีกว่าถั่งเช่า ซึ่งอาจจะต้องมีการศึกษาและทำการพิสูจน์กันต่อไป
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เห็ดถั่งเช่าสีทองและถั่งเช่าถูกจัดอยู่ในสกุลเดียวกัน ดังนั้น ข้อควรระวังในการใช้เห็ดถั่งเช่าก็สามารถนำมาพิจารณาประกอบการใช้ได้เช่นเดียวกัน โดยการใช้เห็ดถั่งเช่านั้นมีข้อควรระวัง ดังนี้
- ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยเบาหวานเนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ จะไปเสริมฤทธิ์กับยาลดน้ำตาลในเลือด จนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงจนเกิดอันตรายได้
- ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดเนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
- ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน(immunosuppressive) ทั้งนี้ ก็เพราะว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
- การใช้ในหญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร และในเด็ก ควรหลีกเลี่ยงที่จะบริโภคเนื่องมาจากยังไม่มีข้อมูลยืนยันถึงความปลอดภัยในการบริโภคที่มากเพียงพอ
- ห้ามมิให้ใช้ถั่งเช่ากับคนที่แพ้เห็ดCordyceps ผู้ป่วยที่มีอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และผู้ป่วยที่มีการเต้นของหัวใจผิดปกติ
เหรียญยังมี 2 ด้าน ดาบยังมี 2 คม แม้แต่สุดยอดสมุนไพรอย่างถั่งเช่าก็ย่อมมีทั้งดีและไม่ดี ทุกอย่างในโลกล้วนแต่มี 2 ด้านทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกบริโภคถั่งเช่า เราก็ควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจถ่องแท้และแน่นอนเสียก่อนว่า ปลอดภัยและสามารถไว้ใจในผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาบริโภคได้แค่ไหน รวมทั้งปริมาณการรับประทานที่เหมาะสมว่าเป็นเท่าไร ซึ่งหากว่าท่านกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดจากถั่งเช่าแท้ๆ ที่ปลอดภัย และไว้ใจได้แล้วละก็ Dr.MDX ขอแนะนำให้ลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับถั่งเช่าจากเว็บไซต์ของผู้ผลิตและจัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ ที่ให้ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าที่ให้ไว้อย่างละเอียดครบถ้วน โดยพิจารณาจากเครื่องหมายรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา (อย.) และเครื่องหมายผ่านมาตรฐานการผลิตสากล (HACCP GMP ISO) รวมถึงมีฝ่ายบริการลูกค้าที่สามารถติดต่อสอบถามหรือให้ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับข้องกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างหมดความสงสัย เพื่อให้เราสามารถที่จะบริโภคผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าด้วยความปลอดภัยครับ
ข้อมูลอ้างอิง